วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

กาแฟโบราณ ใส่นม

กาแฟโบราณนั้น มีเอกลักษณ์ อยู่อย่างหนึ่งคือ จะใส่นมข้นหวาน ไว้ด้านล่าง แล้วเทน้ำกาแฟ ลงไปด้านบน ถ้าใครชอบหวานมาก ก็ตีนมด้านล่าง ให้ผสมกับเนื้อกาแฟ แต่บางคน ที่ไม่ชอบหวาน ก็อาจจะดื่ม โดยที่ไม่ต้องคนเลยทีนี้ เรื่องมันมีอยู่ว่า วันหนึ่ง คุณลุงคนหนึ่ง ก็ไปนั่งจิบกาแฟ ที่สภากาแฟ พอดีหลานสาว เจ้าของร้าน อยู่ในช่วงปิดเทอม จึงมาช่วยยาย ขายกาแฟ พอหลาน ยกกาแฟมาเสริฟ คุณลุงก็พูดขึ้นว่า นมน้อยจัง
หลานสาว ก็เขินอาย ตอบกลับไป เสียงเบาๆ ว่า เพิ่งขึ้นค่ะ
ยายได้ยินดังนั้น ก็ทุบโต๊ะดัง ปัง!! แล้วตะโกนว่า เพิ่งขึ้นที่ไหนกัน ขึ้นมาตั้ง สองเดือนแล้ว!!
สรุปว่า ลุงพูดถึง นมในแก้วกาแฟ ส่วนหลานสาวพูดถึง หน้าอกของตัวเอง ส่วนยายหมายถึง ราคานม ที่ปรับราคาขึ้น

เรื่องนี้ เป็นเรื่องเล่าขำๆ จากต่วยตูนที่เล่าต่อๆ กันมา แต่ในความตลกนั้น ถ้าพิจารณาดีๆ จะเห็นว่า
คนเราอาจพูดกัน คนละเรื่อง ทั้งๆ ที่ คิดว่า กำลังพูดเรื่องเดียวกัน ความเข้าใจ ที่คลาดเคลื่อน อาจเกิดจาก “สถานภาพที่ต่างกัน” เช่น คนหนึ่ง กำลังพิจารณา กาแฟในแก้ว อีกคนหนึ่ง กำลังกังวล เรื่องความเปลี่ยนแปลง ในร่างกาย ของตนเอง และอีกคนหนึ่ง กำลัง กังวล เรื่องกำไรขาดทุน
ดังนั้น ความเข้าใจผิด เกิดขึ้นได้ แม้จะ กำลังพูด ภาษาเดียวกัน นั่งพูดกัน ตัวต่อตัว และ ไม่มีใครมีเจตนา บิดเบือนข้อมูล นี่เป็นตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็นว่าความเข้าใจผิด เกิดขึ้นได้ง่ายเพียงใด
การสื่อสารในกลุ่มเพื่อนๆ ก็เช่นเดียวกัน หากขาดความระมัดระวัง เราก็จะพูดกัน คนละเรื่อง และบางครั้งก็เกิดความน้อยใจออกจากกลุ่มไป ทั้งๆที่ทุกคนมีความปรารถนาดี และตั้งใจดีต่อกันนะจ้ะ

โจรปล้นธนาคารกับข้อคิดดีๆ

​1. โจรปล้นธนาคาร.ตะโกนคำแรกเมื่อชักปืนออกมาว่า .....

"ทุกคนอย่าขยับ เงินเป็นของรัฐ ...แต่ชีวิตนั้น เป็นของคุณ..."

ทุกคนนอนอย่างสงบบนพื้น ไม่มีใครกล้าที่จะเสี่ยงชีวิตตัวเอง เพื่อไปปกป้องเงินของรัฐ

เราเรียกสิ่งนี้ว่า "เทคนิคการเปลี่ยนแนวคิด"

ใช้และมี เทคนิคการพูดนิดเดียว ก็อาจเปลี่ยนแนวคิดคนฟังไปไกลโข ...

2. ผู้หญิงคนนึงนอนอยู่บนพื้นทำท่าจะกรี๊ดร้อง ทันใดนั้นโจรก็ตะโกนใส่ผู้หญิงว่า ...

"เรามีวัฒนธรรม ผมมาปล้นแบ๊งค์ ไม่ได้มาข่มขืนคุณ ฉะนั้น โปรดเงียบ ... "

ผู้หญิงคนนั้น ปิดปากเงียบสนิท โดยพลัน ...

เราเรียกสิ่งนี้ว่า "การเป็นมืออาชีพ"

ตั้งมั่นในเป้าหมายอย่างเดียวไม่ว่อกแว่ก... แล้วเดินหน้าตามเป้าหมาย ...

3. เมื่อโจรกลับถึงฐานลับ โจรวัยรุ่นที่จบการศึกษาระดับ ปริญญาโท MBA บอกกับรุ่นพี่โจรว่า ...

"เรามานับเงินกันดีกว่า ว่าเราได้มาเท่าไหร่" ...

แต่รุ่นพี่โจรที่จบเพียงชั้นประถม กล่าวว่า "แกนี่มันโง่มากเลย เงินตั้งเยอะตั้งแยะ จะนับยังไง คืนนี้ทีวีจะบอกเองแหละว่า เราได้มาเท่าไหร่!!"

เราเรียกสิ่งนี้ว่า "ประสบการณ์"

ปัจจุบันประสบการณ์มีค่ามากกว่า ใบปริญญามากมายนัก ....

4. เมื่อโจรกลับไปแล้ว รองผู้จัดการ กำลังจะโทรหาตำรวจที่เบอร์ 191 แต่ผู้จัดการธนาคารรีบค้านว่า ...

"เดี๋ยวๆๆ ใจเย็นๆ รองผู้การฯโจรเอาเงินไปเท่าไหร่ เรามานับกันก่อน แล้วบอกตำรวจว่า โจรเอาไปมากกว่านั้น"

เราเรียกสิ่งนี้่ว่า "กินตามน้ำ"

5. รองผู้จัดการฯ เปรยว่า "นั่นสิ ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว มีโจรมาปล้นธนาคารเรา ทุกๆ เดือนก็ดีสินะ"

เราเรียกสิ่งนี้ว่า "การเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส"

6. วันถัดมา ทีวีทุกช่องออกข่าวกันว่า มีโจรปล้นธนาคาร ปล้นไปได้ 100 ล้านบาท

โจรที่ปล้นธนาคาร ต้องกลับไปนับเงิน นับแล้วนับอีก ไม่ว่าจะนับกี่รอบ ก็นับได้แค่ 20 ล้านบาท...

โจรโกรธมากแล้วพูดว่า

"เราเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อเข้าปล้นธนาคารนี้ ปล้นออกมาได้แค่ 20 ล้านบาท แต่เจ้าผู้จัดการธนาคาร แค่มันหัวไวนิดเดียว มันทำเงินได้มากกว่าเรา ถึง 80 ล้านบาท

ความเป็นคนหัวไว มีปฏิภาณ ไหวพริบดี เมื่อบวกกับการศึกษาดี มีดีอย่างนี้นี่เอง ...

เราเรียกสิ่งนี้ว่า "ความรู้และปฏิภาณไหวพริบดี มีค่ามากกว่าทองคำ"

7. ผู้จัดการธนาคาร ยิ้มอย่างเริงร่า เพราะว่าอยู่ดีๆ เขาก็มีเงินเพิ่มขึ้นถึง 80 ล้านบาท จากการที่มีโจรมาปล้นธนาคารเขา

เราเรียกสิ่งนี้ว่า "โคตรโกง" โจรเสื้อนอกร้ายกาจกว่าโจรปล้นแบ้งค์ยิ่งนัก ...


หมัดกับสจ๊วต


"หมัดตัวนึงคิดอยากเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ จึงใช้วิธีเกาะหนวดของสจ๊วตไป
พอเครื่องบิน บินขึ้นมาที่ความสูงมากๆอากาศจึงเย็นและหนาว หมัดตัวนั้นคิดว่า
ต้องหาแหล่งขนใหม่เกาะเพื่อความอบอุ่น พอสจ๊วตเข้าห้องน้ำ หมัดจึงกระโดดลง
ที่ชักโครก
ไม่นานแอร์โฮสเตทก็เข้ามา หมัดมองไปที่แหล่งขนแห่งใหม่แล้วคิดว่าคงอุ่นน่าดู
แถมยังมีลืบร่องให้หลบหนาว เห็นดังนั้นจึงกระโดดเกาะทันที ด้วยความอุ่นสบาย
หมัดจึงเผลอหลับไปหลายชั่วโมง ตื่นมาอีกทีหมัดก็ต้องพบกับความประหลาดใจ
เมื่อเห็นว่าตัว กลับมาอยู่ที่หนวดของสจ๊วดเหมือนเดิม...

คลายเครียด ก่อนหวยออก

ณ วัดป่าแห่งหนึ่ง
สีกา: ท่านเจ้าขา งวดนี้ขอเด็ดๆ นะเจ้าคะ
พระ: เจ้าเกิดวันที่เท่าไหร่?
สีกา: 7 เจ้าค่ะ
พระ: เอ้า 7 แล้วเดือนเกิดล่ะ
สีกา: มิถุนายนค่ะ
พระ: เอ้า 6 แล้วเจ้าเคยนอก
ใจสามีบ้างมั้ย? กี่ครั้ง?
สีกา: ไม่เคยเลยค่ะ
พระ: เอ้า 0 เอาไปเลย 760
สีกาดีใจเนื้อเต้น ทุ่มซื้อ 760 โดดๆ 1,000×1,000
" เลขที่ออก....765 "
สีกา: คร่ำครวญสุดเซ็ง
"ห่าเอ๊ย กูไม่น่าโกหกพระเลย"

วันอังคารที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2560

ผลัดกันทำงานบ้าน

อาทิตย์ก่อนไปหาเพื่อนที่บ้าน เห็นมันกวาดถูบ้านเลยถามมันว่า

"ทำไมไม่ให้เมียมึงทำ?"

มันตอบว่า "ผลัดกันน่ะ"
 
อีก 3 วันแวะไป เห็นมันกำลังซักผ้าล้างจานอีก พอถามมัน

มันก็ตอบว่า "ก็ผลัดกัน"

วันก่อนแวะไป...ก็ยังเห็นมันหุงข้าวทำอาหารอีก!

"อะไรวะ! กูเห็นมึงทำอยู่คนเดียว เมียมึงล่ะ?"

มันตอบเสียงดัง "ก็กูบอกแล้วไงว่า ผลัดกัน ผลัดกัน!...ชาตินี้กูทำ

ชาติหน้ามันทำ...มึงเข้าใจรึยัง..หา ! โง่ชิบหายเลยมึง"

กระทบกันไปหมด


เจ้านายโทรบอกเลขา : ห้าวันนี้ไปเที่ยวปารีสกับผมนะ
เลขาโทรบอกสามี : ห้าวันนี้ชั้นต้องไปประชุมกับเจ้านายที่ปารีส
สามีโทรบอกกิ๊ก : ห้าวันนี้เมียไม่อยู่บ้าน มาอยู่เป็นเพื่อนหน่อย
กิ๊กบอกนักเรียน : ห้าวันนี้ครูมีธุระ งดเรียน
เด็กโทรบอกปู่ : ห้าวันนี้งดเรียน ปู่พาหนูไปทะเลนะ
ปู่โทรบอกเลขา : ไปปารีสไม่ได้แล้ว ต้องพาหลานไปเที่ยว
เลขาโทรบอกสามี : เจ้านายมีธุระด่วน งดไปปารีส
สามีโทรบอกกิ๊ก : เมียไม่ไปแล้ว เดี๋ยวนัดใหม่
กิ๊กบอกนักเรียน : เรียนตามปกติ!.
5555555555

วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560

งานเลี้ยงรุ่นโรงเรียนชายล้วน

งานเลี้ยงรุ่น นักเรียนเก่า รร.ชายล้วนแห่งหนึ่ง ธีมของงานคือ ให้ทุกคนพาเมียมาร่วมงานด้วย
ในงานเพื่อนๆสนุกสนานเฮฮา มีเพื่อนนั่งหน้าเศร้าอยู่คนนึง เพื่อนๆเลยเข้าไปถามว่า

"มีอะไรไม่สบายใจหรือ"
เจ้าคนนั้นตอบว่า
"อิจฉาเพื่อนมีเมียสาวๆ สวยๆ กันทั้งนั้น ทั้งงานมีเมียกูแก่งั่กอยู่คนเดียว พวกเอ็งทำยังงัยวะถึงได้เมียสาวๆ กันทุกคน"

เพื่อนหัวเราะ

"อ๋อ.. อย่าไปเครียดเลยเพื่อน... เท่าที่ดู รู้สึกจะมีแต่มึงนี่แหละ ที่เอาเมียตัวจริงมางานนี้"

สรุปยอดผู้ได้รับบาดเจ็บในช่วงเทศกาลสงกรานต์

สรุปยอดผู้ได้รับบาดเจ็บในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 7-14 เมษายน

- เมาแล้วเถียงเมีย 1,679 ราย
- หนีเมียเที่ยว 862 ราย
- จีบสาวอื่น 318 ราย
- ปะแป้งสาวอื่น 9,221 ราย
- จับนมสาว 438 ราย
- แอดไลน์สาว 342 ราย
- แอดเฟสฯ มั่ว 899 ราย
- อื่นๆ 192 ราย

ทำยังไงก็ได้ให้หุ้นขึ้น

บริษัทแห่งหนึ่งประสบปัญหาฐานะการเงินไม่ค่อยดี ผู้บริหารเรียกผู้จัดการใหญ่เข้าพบ

ผู้บริหาร: บริษัทเรากำลังจะถูกต่างชาติซื้อกิจการ คุณทำยังไงก็ได้ให้หุ้นขึ้น ให้พวกนั้นซื้อไม่ไหว
วันรุ่งขึ้นหุ้นของบริษัทดังกล่าวขึ้น 3 จุด และไต่ขึ้นถึง 10 จุดในวันต่อมา สร้างความดีใจให้กับผู้บริหารไม่น้อย

ผู้บริหาร: เยี่ยมมาก คุณทำได้ยังไง?

ผู้จัดการ: ผมปล่อยข่าวว่าท่านจะลาออกครับ