วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ผมไม่อยากกลับบ้าน
หลังจากโรงเรียนเลิก ครูปราณีเดินผ่านมา
เห็น ด.ช.พลับ นั่งซึมอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้จึงเดินเข้าไปถาม
ครูปราณี : "อ้าวพลับทำไมยังไม่กลับบ้านอีก มานั่งซึมทำไม ? "
ด.ช.พลับ : "ผมไม่อยากกลับบ้านครับครู ผมอับอายจนทนไม่ได้"
ครูปราณี : "มีเรื่องอะไรล่ะ ไหนเล่าให้ครูฟังซิ ?"
ด.ช.พลับ : "ก็ที่บ้านผม ญาติพี่น้องผม พากันทำเรื่องน่าอับอาย ได้เสียกันหมดแล้ว"
ครูปราณี : "ไหนเธอลองอธิบายให้ครูฟังซิ ?"
ด.ช.พลับ : "ที่บ้านผม ปู่ก็ได้กับย่า ตาก็ได้กับยาย ลุงก็ได้กับป้า
และที่ผมทนไม่ได้ที่สุดก็คือ เมื่อคืนนี้ ผมพบว่า
พ่อกับแม่ ได้เสียกันแล้ว"
ครูปราณี...........
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ภรรยากลับดึก
เธอโกรธสุดขีด คว้าไม้เบสบอลหวดลงไปบนผ้าห่มแรงเท่าที่จะแรงได้นับครั้งไม่ถ้วน เธอโยนไม้เบสบอลทิ้งแล้วเดินไปที่ครัว เพื่อหาเหล้าแรงๆดื่มให้ดับความโมโห
พอเธอเปิดประตูครัว เธอเห็นสามีนั่งอยู่.......
สามี : คืนนี้กลับดึกจังนะ เออพ่อกับแม่คุณมาเมื่อตอนหัวค่ำ ผมเลยให้ท่านนอนที่เตียงเรา
ป่านนี้คงหลับสนิทแล้ว !!!
สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตพ่อ
ลูก : สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตพ่อคืออะไรครับ
พ่อ : แน่นอนว่าต้องเป็นลูกๆ
ลูก : แล้วสิ่งที่ไม่ดีละครับ
พ่อ : เอาไว้ลูกโตพอจะแต่งงานลูกจะเข้าใจเอง
พ่อ : แน่นอนว่าต้องเป็นลูกๆ
ลูก : แล้วสิ่งที่ไม่ดีละครับ
พ่อ : เอาไว้ลูกโตพอจะแต่งงานลูกจะเข้าใจเอง
วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ความลับสีขาว
ผู้ชายคนหนึ่ง เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงที่สวยมาก ใช้ชีวิตคู่กันอย่างมีความ
สุข แต่ในวันหนึ่ง ภรรยาของเขาป่วยเป็นโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งนางก็กังวลว่าสัก
วันหนึ่ง ความสวยงามที่มีอยู่ในตัวของนางจะหายไป แต่ในขณะนั้นสามีของ
นางออกนอกบ้าน เขายังไม่รู้ว่าภรรยาของเขาป่วยเป็นโรคชนิดนี้ แต่บังเอิญ
ว่า ช่วงที่สามีจะกลับมาที่บ้านเขาได้รับอุบัติเหตุกลางทางเสียก่อน และอุบัติ
เหตุในครั้งนี้ทำให้เขาต้องเสียการมองเห็น หรือตาบอด
ชีวิตคู่ของพวกเขาทั้งสองก็ดำเนินมาอย่างเรื่อยๆ และโรคที่อยู่กับภรรยาของ
เขา ยิ่งวันก็ยิ่งทำให้ความสวยงามของนางยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ และผู้เป็นสามี
เองก็เสียการมองเห็น จึงทำให้ชีวิตคู่ของพวกเขาทั้งสองดำเนินไปจนถึง 40
ปี และความรักที่มีให้กันนั้น ก็ยังเป็นเหมือนวันที่พวกเขาทั้งสองได้ใช้ชีวิตคู่
ในตอนแรกๆ สามีให้ความเคารพต่อภรรยา และภรรยาก็ปฏิบัติตามทุกคำสั่ง
สอนที่ดีของสามี จนกระทั่งมาถึงวันที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต ผู้เป็นสามีก็
โศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของนาง
เขา ยิ่งวันก็ยิ่งทำให้ความสวยงามของนางยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ และผู้เป็นสามี
เองก็เสียการมองเห็น จึงทำให้ชีวิตคู่ของพวกเขาทั้งสองดำเนินไปจนถึง 40
ปี และความรักที่มีให้กันนั้น ก็ยังเป็นเหมือนวันที่พวกเขาทั้งสองได้ใช้ชีวิตคู่
ในตอนแรกๆ สามีให้ความเคารพต่อภรรยา และภรรยาก็ปฏิบัติตามทุกคำสั่ง
สอนที่ดีของสามี จนกระทั่งมาถึงวันที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต ผู้เป็นสามีก็
โศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของนาง
หลังจากฝังศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้คนก็ทยอยกันกลับบ้าน ผู้เป็นสามีก็ลุก
ขี้นยืน แล้วจะเดินกลับไปบ้านคนเดียว
ผู้คนที่ยังอยู่ที่นั่นก็ทักเขาว่า
"นี่คุณจะเดินไปไหน ?"
เขาตอบว่า
"จะกลับบ้าน"
ขี้นยืน แล้วจะเดินกลับไปบ้านคนเดียว
ผู้คนที่ยังอยู่ที่นั่นก็ทักเขาว่า
"นี่คุณจะเดินไปไหน ?"
เขาตอบว่า
"จะกลับบ้าน"
ผู้คนที่นั่นก็ถามด้วยเสียงเศร้าว่า
"แล้วคุณจะเดินคนเดียวได้อย่างไร ? ก็ในเมื่อคุณตาบอด ที่ผ่านมาภรรยา
ของคุณเดินจูงคุณไปไหนมาไหนตลอดไม่ใช่หรือ ?"
เขาก็ตอบว่า :
"ฉันไม่ได้ตาบอด ที่ผ่านมาฉันแกล้งทำว่าตัวเองตาบอดเพราะว่าฉันไม่อยาก
ที่จะทำร้ายจิตใจของภรรยาฉัน กับการที่นางได้พยายามปกปิดเรื่องโรคของ
นาง เพื่อไม่อยากที่จะทำร้ายจิตใจของฉัน และส่วนตัวฉัน ก็ได้พยายามปก
ปิดนางว่าฉันตาบอด ก็เพื่อไม่อยากทำร้ายจิตใจของนาง ต่างคนก็ต่างพยา
ยามปกปิด ก็เพื่อที่จะให้ชีวิตคู่นั้นยืนอยู่ได้นานเท่านาน"
"แล้วคุณจะเดินคนเดียวได้อย่างไร ? ก็ในเมื่อคุณตาบอด ที่ผ่านมาภรรยา
ของคุณเดินจูงคุณไปไหนมาไหนตลอดไม่ใช่หรือ ?"
เขาก็ตอบว่า :
"ฉันไม่ได้ตาบอด ที่ผ่านมาฉันแกล้งทำว่าตัวเองตาบอดเพราะว่าฉันไม่อยาก
ที่จะทำร้ายจิตใจของภรรยาฉัน กับการที่นางได้พยายามปกปิดเรื่องโรคของ
นาง เพื่อไม่อยากที่จะทำร้ายจิตใจของฉัน และส่วนตัวฉัน ก็ได้พยายามปก
ปิดนางว่าฉันตาบอด ก็เพื่อไม่อยากทำร้ายจิตใจของนาง ต่างคนก็ต่างพยา
ยามปกปิด ก็เพื่อที่จะให้ชีวิตคู่นั้นยืนอยู่ได้นานเท่านาน"
ในตัวของคนเรานั้น ใครๆต่างก็มีความผิดพลาดกันทั้งนั้น จะดีแค่ไหนถ้าเรา
ทำเป็นมองไม่เห็นกับความผิดพลาดเหล่านั้น ก็เพราะว่าสักวันหนึ่ง ตัวเรา
เองก็หนีไม่พ้นจากความผิดพลาด และคนที่อยู่กับเราก็เช่นกัน ถ้าหากว่าเขา
ได้รับรู้ว่าเราพยายามปกปิดเรื่องที่ไม่ดีของเขาแล้ว ตัวเขาจะซาบซึ้งใจมาก
แค่ไหน และเมื่อเขาได้รับรู้ว่าเราเองก็มีสิ่งที่ไม่ดีเช่นกันและเขาก็จะพยายาม
ปกปิดสิ่งที่ไม่ดีของเราเหล่านั้น เพื่อให้เราได้ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข
ทำเป็นมองไม่เห็นกับความผิดพลาดเหล่านั้น ก็เพราะว่าสักวันหนึ่ง ตัวเรา
เองก็หนีไม่พ้นจากความผิดพลาด และคนที่อยู่กับเราก็เช่นกัน ถ้าหากว่าเขา
ได้รับรู้ว่าเราพยายามปกปิดเรื่องที่ไม่ดีของเขาแล้ว ตัวเขาจะซาบซึ้งใจมาก
แค่ไหน และเมื่อเขาได้รับรู้ว่าเราเองก็มีสิ่งที่ไม่ดีเช่นกันและเขาก็จะพยายาม
ปกปิดสิ่งที่ไม่ดีของเราเหล่านั้น เพื่อให้เราได้ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข
วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ความซวยมาเยือน
สาวใช้หันไปมองหน้าคุณผู้ชาย ด้วยสายตาวิงวอน
"คุณผู้ชายค่ะช่วยเป็นพยานให้หนูด้วยว่า..หนูไม่เคยใส่กางเกงในเลย .ใช่มั้ยคะ
วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558
แค่สองร้อย
ครั้งนี้กลับไปเยี่ยมบ้าน และซื้อไวอากร้าไปฝากพ่อ บอกพ่อว่าสรรพคุณดีมาก
พ่อถาม - ราคาเท่าไร.?
ลูกบอก -ได้ผลแล้วค่อยจ่ายล่ะกัน ...สองร้อยเองพ่อ
พ่อเลยตัดสินใจลองดู บอกลูกพรุ่งนี้ค่อยจ่ายตังค์
รุ่งขึ้นพ่อเอาเงิน 5200 มาให้ลูก ลูกเลย บอกพ่อว่า "พ่อ..แค่สองร้อยครับ"
พ่อบอก-เออ กูรู้แล้ว...อีกห้าพันเนี่ย แม่มึงฝากมา
รางวัลผสมพันธุ์วัว
ผู้ว่า กะ คุณนาย ได้รับเกียรติ เป็นประธานใน งานประกาศ พ่อวัวพันธุ์ดี
ผู้จัดได้เชิญ ผู้ว่าจังหวัด และ ภรรยา มามอบรางวัล
โฆษกได้เริ่มประกาศ มอบรางวัลตามลำดับ
รางวัลที่ ๓ วัวทองดี สามารถผสมพันธุ์ได้ ๒ ครั้งต่อวัน
..เมียผู้ว่า สกิดผู้ว่า "เห็นมั๊ยๆ"..
รางวัลที่ ๒ วัวสมปอง สามารถผสมพันธุ์ได้ ๓ ครั้งต่อวัน
..เมียผู้ว่า สกิดผู้ว่า "เห็นมั๊ยๆ"..
รางวัลที่ ๑ วัวมานะ สามารถผสมพันธุ์ได้ ๕ ครั้งต่อวัน
..เมียผู้ว่าสกิดผู้ว่า "เห็นมั๊ยๆ"..
ผู้ว่าฯ โมโห จึงถามผู้จัดว่า ที่วัวสามารถผสมได้หลายครั้งต่อวัน เพราะอะไร ?
โฆษกตอบว่า
เพราะเราเปลี่ยนแม่วัวทุกครั้งครับ !!..
..ผู้ว่าฯ หันมาบอกเมียว่า... "เห็นมั้ยๆ"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)