ต้นไม้แก่ขอฝนจากเมฆก้อนน้อย เมฆก้อนน้อยตอบเพียงว่า
น้ำฝนมีอยู่น้อย
กลัวว่ามันคงจะไม่พอให้ต้นไม้แก่ได้ชื่นใจ
วันต่อมา
เมฆก้อนน้อยก็ยังคงบอกเช่นเดิม
มันน้อยไป จึงไม่พร้อมที่จะให้
เมฆก้อนน้อยจึงเดินทาง และพยายามสะสมฝน
เพื่อที่จะให้มันมากพอ พอที่จะทำให้ต้นไม้แก่ได้ชื่นใจ
เมื่อมีปริมาณมากพอ
เมฆน้อยจึงกลับมา
แต่สิ่งที่พบข้างหน้า
มีเพียงซากต้นไม้แก่ที่ตายแล้ว
เมฆน้อยได้แต่ร้องไห้แล้วถามว่าทำไม
ความพยายามของฉัน ไม่มีค่าเลยเหรอ
ชายหนุ่มที่นั่งใต้ต้นไม้จึงได้แหงนหน้า
แล้วบอกเมฆน้อยไปว่า
" การที่เราจะให้อะไรแก่ใครสักคนที่เรารัก
มันไม่ต้องรอให้มากพอ
หรือรอความพร้อมอะไรหรอก
ให้เท่าที่มี ก็ทำให้คนรับชื่นหัวใจได้
ความพยายามเป็นสิ่งที่ดี
แต่มันก็มีเวลาเป็นเงื่อนไขนะ
อย่าไปรอให้รวย ถึงจะทำอะไรให้คนที่เรารัก
อย่าไปรอให้พร้อม ถึงจะทำอะไรให้คนที่เรารัก
เพราะคนที่เรารัก อาจไม่มีเวลามากพอที่รอเรา "
แล้วก่อนที่ต้นไม้แก่จะจากไป
เขาฝากบอกเธอไว้ว่า ถ้าเห็นเธอผ่านมา
ให้บอกเธอว่า เขารักเธอ
เมฆน้อยได้แต่หลั่งน้ำตาออกมา
เป็นเม็ดฝนอย่างไม่ขาดสาย
ให้กับต้นไม้ที่ไม่มีวันแตกใบให้ได้เห็น
อีกต่อไป ตลอดกาล
อ่านกี่ทีก็ชอบ..เพราะเตือนสติได้ดีมาก...
ในสิ่งที่เรามองข้าม
บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง เขาเขียนขึ้นในวันที่ 11 กันยายน (ตึกเวิรด์เทรดถล่ม) หลังจากที่ทราบว่าภรรยาของเขา
เสียชีวิตในตึกนั้นด้วย..
ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ
ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ ครอบครัวเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า
แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้าน
กลับยากเย็น
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว
แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง
ทุกวันนี้ ทุกบ้านมีคนหา รายได้ได้ถึง 2 คน แต่การ หย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นจากนี้ไปขอให้พวกเรา
อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้าง ว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิต อยู่คือโอกาสที่พิเศษสุดแล้ว
แสวงหา การหยั่งรู้
นั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความอยาก
ใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น
กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือ โซ่ห่วงของนาที แห่งความสุข ไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ หยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้
เอาคำพูดที่ว่า "สักวันหนึ่ง……" ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่า เรารักพวกเขาเหล่านั้น แค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตาม ที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น
ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย เราไม่รู้เลย ว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง
และเวลานี้….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น