วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ครูสอนไม่ดีหรือมึงโง่

แม่ : วันนี้เรียนเป็นไงบ้างลูก
ลูก : ก็ดีครับแม่ ครูสอนบวกลบเลข

แม่ : เหรอ งั้นทดสอบหน่อย
ลูก :จัดมาแม่

แม่ : มีตังค์ 10บาท ซื้อขนม 2บาท ทอนเท่าไหร่
ลูก :ทอน 3 บาทครับ

แม่ :หือ!! สรุปครูสอนไม่ดีหรือมึงโง่วะ 
.
.
.
ลูก : ผมให้เหรียญ5 ครับแม่

คุณแม่จอมเฮี๊ยบ

คุณแม่จอมเฮี๊ยบสืบทราบว่าลูกชายวัยรุ่นไปเที่ยวอาบอบนวด แต่ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่นั่งถอนหายใจ 
จนอดรนทนไม่ได้ จึงพูดกับลูกว่า
"ตกลงลูกได้เจอในสิ่งที่ลูกไม่ควรเจอแล้วล่ะซิ" 
ลูกตอบว่า
"แม่ทราบแล้วเหรอครับว่า ว่า ว่า ... 
ผมเจอพ่อที่นั่น"

ห้างขายสามี

... ห้างขายสามี !!!
*** มีร้านขายสามีแห่งหนึ่ง เพิ่งเปิดตัวที่นิวยอร์กซิตี้แอนเดอร์เจ็คสันเพลโตลรี่ช็อป ที่ซึ่งผู้หญิงสามารถเข้าไปเลือกซื้อสามีได้ ที่ทางเข้ามีคำอธิบายว่า 
"คุณจะมาที่ร้านแห่งนี้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ร้านนี้มี 6 ชั้นและคุณค่าของสินค้าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามชั้นที่คุณขึ้นไป คุณสามารถจะเลือกซื้อสินค้าใดก็ได้ในแต่ละชั้นหรือจะเลือกขึ้นไปยังชั้นถัดไป แต่คุณไม่สามารถลงมาได้อีก นอกจากจะออกจากร้านไปเลย!"
****

         **** ผู้หญิงคนหนึ่ง จึงไปที่ร้านนี้เพื่อหาซื้อสามี ที่ชั้นแรก มีป้ายเขียนว่า... 
"ชั้น 1 : ชายเหล่านี้มีงานทำ // "

ที่ชั้นสอง มีป้ายเขียนว่า... 
"ชั้น 2 : ชายเหล่านี้มีงานทำและรักเด็ก //"

ที่ชั้นสาม มีป้ายเขียนว่า... 
"ชั้น 3 :ชายเหล่านี้มีงานทำ รักเด็กและหน้าตาดีสุดๆ //"

หญิงคนนั้นคิด "ว้าว" แต่ก็ยังขึ้นไปยังชั้นต่อไป..// 

ที่ชั้นสี่ มีป้ายเขียนว่า... 
"ชั้น 4 :ชายเหล่านี้มีงานทำ รักเด็ก หน้าตาดีสุดๆ และช่วยทำงานบ้าน"

"โอ้ พระเจ้าช่วย" หญิงคนนั้นอุทาน "ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว" แต่เธอก็ยังไปยังชั้นห้า.. 

ที่ชั้นห้า มีป้ายเขียนว่า.. 
"ชั้น 5 : ชายเหล่านี้มีงานทำ รักเด็ก หน้าตาดีสุดๆ ช่วยทำงานบ้าน และโร แมนติกมาก"

แต่เธอก็ยังขึ้น ไปชั้นหก ที่ชั้นนี้ไม่มี ผู้ชายเลย แต่มีป้ายเขียนไว้ว่า
"ชั้นนี้ถูกสร้างแยกออกมา เพื่อพิสูจน์ว่าผู้หญิงไม่มีวันพอใจอะไรง่ายๆ ขอบคุณที่มาใช้บริการ" ติ๊งต่อง.......****

        **** เพื่อไม่ให้เกิดความครหาว่าลำเอียง เจ้าของร้านจึงเปิดร้านใหม่อีกร้านนึง เป็นร้านขายภรรยา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม 

ชั้นแรกมีภรรยาที่ชอบมีเซ็กส์ 

ชั้นสองมีภรรยาที่ชอบมีเซ็กส์ และมีเงิน 

ที่ชั้นสามจนถึงชั้นหก ไม่มีใครทราบว่ามีอะไร เพราะไม่เคยมีผู้ชายหน้าไหนขึ้นไปถึงเลย....

ชายชราสมาชิกคลับนู้ด

ชายชราตัดสินใจ
เข้าเป็นสมาชิกคลับนู้ด
ด้วยราคาแพงลิบลิ่ว วันแรกที่ไปใช้บริการ หลังจากถอดเสื้อผ้าออกหมด เขาก็ตัดสินใจเดินเล่นรอบๆ

พลันก็เจอะกับพนักงานสาวนู้ด
ผมบลอนด์สุดอึ๋มเดินผ่านมา วินาทีนั้นเองกาปู๋เจ้ากรรม
ก็ตั้งเด่ขึ้นมา

"ท่านเรียกหนูหรือคะ" พนักงานสาวถาม
"เปล่าจ่ะ หนูพูดถึงอะไรอ่ะ" ชายชรางง
"อ๋อ..ท่านคงเป็นสมาชิกใหม่ อย่างนี้ค่ะ กฏของคลับเราคือถ้าท่านตั้งเด่ขึ้นมา แสดงว่าท่านเรียกหนูค่ะ"
 ว่าแล้วเธอก็พาเขาเข้าไปห้องด้านข้างแล้วก็จัดการเขา
จนสำเร็จเสร็จสมอารมณ์หมาย

ชายชราตัดสินใจเดินสำรวจต่อ
เข้าไปที่ห้องซาวน่า นั่งลงบนม้านั่ง แล้วเขาก็เผลอ..ตดออกมา เเล้วก็มีพนักงานหนุ่มรูปหล่อคมสัน
รูปร่างกำยำโผล่มา 

"ท่านเรียกผมหรือครับ" พนักงานหนุ่มถาม
"เปล่าน่ี คุณพูดอะไร" 
ชายชรางงอีกครั้ง
"อืม..ท่านคงเป็นสมาชิกใหม่ อย่างนี้ครับ กฏของคลับเราคือถ้าท่านตด
แสดงว่าท่านเรียกผมครับ" 

ว่าแล้วพนักงานหนุ่ม
ก็จับชายชราพาดไปที่ม้านั่ง แล้วก็จัดการเขาจนพนักงานหนุ่ม
สำเร็จเสร็จสมอารมณ์หมาย

ชายชราเดินกระโผลกกระเผลก
กลับออกไปที่สำนักงาน เจอพนักงานต้อนรับสาวยิ้มหวาน "มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ ยินดีให้บริการค่ะ" 
ชายชราหน้าแดง พูดเสียงดัง "นี่บัตรสมาชิก เอาคืนไปเลย ค่าสมาชิกก็ไม่ต้องคืนด้วย"

"แต่ท่านคะ ท่านเพิ่งมาถึงไม่กี่ชั่วโมงเอง ท่านยังไม่เห็นการบริการด้านอื่นๆ
ของเราเลยนะคะ" พนักงานต้อนรับท้วงติง

"ไม่เอาแล้ว อูย...(คลำก้น) ไอ้จู๋ผมมันแข็งได้เดือนละครั้งเท่านั้น แต่ผมต้องตดวันละตั้งหลายครั้ง"

@#*&%

คนขับรถทัวร์กับพระภิกษุ

เทวดาได้พิจารณาคุณสมบัติชาย 2 คน รอขึ้ึ้นสวรรค์

คนที่ 1 เป็นคนขับรถทัวร์(บขส) เทวดาพอใจมากให้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  

คนที่ 2 เป็นพระภิกษุ เทวดาให้ขึ้นสวรรค์ชั้นต้น พระจึงโวย

พระ : "อาตมาบวชในบวรพระพุทธศาสนามา 35 ปี เทศน์ให้คนฟังเป็นล้าน ทำไมได้ขึ้นสวรรค์ชั้นต้น แต่พ่อหนุ่มนั่นเป็นแค่คนขับรถทัวร์กลับได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์"

เทวดา : "ท่านน่ะ เวลาเทศน์คนฟังหลับหมด แต่พ่อหนุ่มนั่นเวลาขับรถ ผู้โดยสารทุกคนนั่งสวดมนต์"

นิทานประกอบการเรียนบริหารรัฐกิจและธุรกิจ

นิทานประกอบการเรียนบริหารรัฐกิจและธุรกิจ 

1.เกิดไฟใหม้ที่โรงอาบน้ำหญิง กลุ่มหญิงเปลือยล่อนจ้อนวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาบนท้องถนน ตาแก่คนหนึ่งตะโกนฮาป่า บรรดาหญิงเปลือยนึกขึ้นได้จึงพยายามใช้มือปกปิด แต่จุดล่อแหลมมีอยู่หลายจุด จึงต่างจ้าละหวั่นทำอะไรไม่ถูก ตาแก่ตะโกนบอก “ปิดใบหน้าก็พอ ข้างล่างมันเหมือนกันหมด” ★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า ในภาวะฉุกเฉินไม่อาจทำอะไรให้รอบคอบทุกด้าน จับจุดสำคัญก็พอ 

2.สาวใหญ่แจ้งความกับตำรวจ “ดิฉันเสียบกระเป๋าเงินไว้ในยกทรง เบียดเสียดในรถไฟใต้ดินจนถูกหนุ่มหล่อล้วงกระเป๋าไป” ตำรวจขมวดคิ้ว “ล้วงในจุดล่อแหลมขนาดนี้ คุณไม่รู้สึกตัวรึ?” สาวใหญ่ตอบเหนียมอาย “ก็ไม่นึกว่าเขาตั้งใจจะล้วงกระเป๋าสิ” ★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า การทำให้ลูกค้าตกอยู่ในภาวะเคลิบเคลิ้มพอใจที่จะถูกรีดเงิน เป็นชั้นเชิงสูงสุดทางธุรกิจ 

3. บริษัทติดข้อความเหนือโถปัสสาวะ “ก้าวเข้าไปอีกนิด ใกล้ชิดอารยธรรม” แต่บนพื้นก็ไม่วายมีฉี่เรี่ยราดเฉอะแฉะ บริษัทศึกษาบทเรียนอย่างจริงจัง แล้วปรับแผนใหม่ดังนี้ “ฉี่ไม่ตรงเป้าโถแสดงว่าของคุณอ่อน ฉี่เล็ดก่อนถึงโถแสดงว่าของคุณสั้น” ผลปรากฏว่าพื้นสะอาดกว่าเดิมเยอะทีเดียว ★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า การให้คำแนะนำแก่ลูกค้า ต้องเป็นรูปธรรมและแทงถูกใจดำ 

4.วันหนึ่ง เลขานุการสาวตีหน้าขึงขังกับผู้จัดการ “ผู้จัดการ ดิฉันตั้งท้องอะ” ผู้จัดการได้ยินดังนั้นยังคงก้มหน้าอ่านเอกสาร แล้วตีหน้าตายพูดว่า “ผมทำหมันตั้งนานแล้ว” เลขานุการสาวตะลึงอยู่ชั่วขณะ แล้วยิ้มให้ผู้จัดการ “ดิฉันพูดเล่นจ้า” ผู้จัดการเงยหน้ามองเธอ “ผมก็หมือนกัน” พร้อมกับจีบน้ำชา ★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า คนที่อยู่ในสังเวียนต้องไม่ตระหนกตกใจง่ายเมื่อเผชิญวาวะวิกฤต แม้มีปืนเล็งมาก็ตั้งตัวรับได้ 
5. ชายหนุ่มไปขอลูกสาว ว่าที่พ่อตาให้แต่ละคนแนะนำตัว ก.บอกว่า “ผมมีเงิน ๑๐ ล้าน” ข.บอกว่า “ผมมีคฤหาสน์หรูมูลค่า ๒๐ ล้าน” ว่าที่พ่อตาฟังแล้วรู้สึกพอใจ แล้วถาม ค. ว่ามีอะไร “ผมไม่มีอะไรเลย” ค.ตอบ “มีแต่ลูกคนเดียวยังอยู่ในท้องลูกสาวคุณ” ก. กับ ข. ได้ยินแล้วรีบลาจาก ★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า อำนาจแข่งขันไม่อยู่ที่กำลังทรัพย์ แต่อยู่ที่การจัดวางคนของเราในตำแหน่งที่สำคัญ 

6.เถ้าแก่เบื่อเมียลับเต็มทน เมียลับเริ่มแก่ตัวจึงขอค่าเลี้ยงดูก้อนใหญ่ เถ้าแก่คิดจะฆ่าปิดปาก แต่ CFO เสนออุบายให้เถ้าแก่ออกทุนแสนหยวนส่งเมียลับไปเรียน EMBA โดยอ้างเหตุผลเพื่อยกระดับวุฒิการศึกษา ในห้องเรียน EMBA ล้วนเป็นนักศึกษาระดับเถ้าแก่ ต่างหลงเสน่ห์นักศึกษาสาวเมียลับคนนี้ ไม่ช้าไม่นานเมียลับก็ไม่ขออยู่กับเถ้าแก่เก่าแล้ว แถมยังให้เงินล้านแก่เถ้าแก่เก่าเป็นค่าปิดปาก ★ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า การจัดการทรัพย์สินด้อยคุณภาพของธุรกิจ วิธีที่ดีที่สุดคือย้อมแมวตกแต่งแล้วแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน ไม่ใช่ถือเป็นซากทิ้งไปหรือรอให้ย่อยสลายเอง

เรื่องชั่ว

A : เรื่องชั่วนี่กูไม่เคยทันใครเขาเลยว่ะ 
B : อ๋อ มึงคนดีสินะ 
A : ป่าว...  กูชั่วช้า 
B : .......................

ผึ้งหาทางออกไม่ได้

ผึ้งตัวหนึ่งได้เข้าไปในอวัยวะเพศของสมหญิงโดยบังเอิญ แล้วก็ค้างอยู่อย่างนั้น หาทางออกไม่ได้ สมชายผู้เป็นผัวจึงพาไปหาหมอ 
หมอแนะนำว่า 
"คุณเอาน้ำหวานแตะที่ปลายจู๋ของคุณ แล้วแหย่เข้าไปล่อผึ้งซิ
เดี๋ยวมันก็ออกมา"
สมชายร้องโวยวาย 
"ผมไม่กล้าหรอกหมอ เดี๋ยวผึ้งมันต่อย ก็เสียของพอดีกัน"
หมอเห็นท่าไม่ดี กลัวผึ้งจะเข้าไปลึกกว่าเดิมก็เลยอาสาจะทำให้
สมชายก็ตอบตกลง
จากนั้นหมอก็เอาน้ำหวานแตะที่ปลายจู๋ตัวเองแล้วเสียบลงไปในอวัยวะเพศของสมหญิงช้าๆ 
สักพักหมอเริ่มขยับถี่ๆ เร็วขึ้นๆ สมชายผัวหนุ่มจึงโวยวายขึ้น 
"หยุด หยุด ไหนบอกว่า แค่ล่อออกมาไง แล้วหมอส่ายเอวทำไม"
หมอยังส่ายเอวต่อไป แต่ตอบว่า
"หมอเปลี่ยนใจ่แล้ว ตอนแรกคิดว่าจะแค่ล่อผึ้ง แต่คิดไปคิดมา หมอว่าจะทำให้น้ำท่วมมันตายเลยดีกว่า

ห้ามใช้ยางลบ

....สมัยเด็กๆ ครูสอนศิลปะท่านหนึ่งสอนฉันเสมอว่า เวลาเราใช้ดินสอวาดภาพ ...ห้ามใช้ยางลบ 

ตอนนั้น ฉันไม่เข้าใจจุดประสงค์ของครูสักเท่าไหร่ 
รู้เพียงแต่ว่าเวลาฉันวาดภาพแล้วเส้นมันบิดเบี้ยว 
ฉันก็อยากแก้ให้มันตรง สวย 
แต่ทุกครั้งที่ฉันหยิบยางลบขึ้นมาเพื่อจะลบภาพนั้น 
ครูของฉันก็จะเตือนถึงกติกานั้นเสมอ 

สุดท้ายฉันจึงเลือกใช้วิธีต่อเติมภาพๆ นั้นไปตามจินตนาการ 
เช่นถ้าฉันตั้งใจวาดรูปหน้าคน แต่ฉันเผลอวาดดวงตากลมโตเกินไป 
ฉันก็จะใช้วิธีเปลี่ยนตากลมๆ นั้นเป็นแว่นตาแทน 
แม้ตอนนั้นฉันจะไม่เข้าใจว่า 
ทำไมฉันจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ยางลบ 
และแม้ฉันจะไม่เคยคิดวาดรูปหน้าคนใส่แว่นตามาก่อน 
แต่ฉันก็ได้รูปหน้าคนตามที่ต้องการ แถมยังภูมิใจว่า 
ฉันสามารถวาดภาพๆนั้นด้วยความมั่นใจ 
และไม่ต้องใช้ยางลบลบภาพเลยสักครั้ง 

เวลาผ่านไป ฉันโตขึ้น ฉันเรียนรู้ว่า สิ่งที่ครูสอนวันนั้น 
แท้จริงแล้วมันปลูกฝังนิสัยหนึ่งให้กับฉัน นั่นคือ 
การเข้าใจธรรมชาติของความผิดพลาด 

ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของคนทุกคน 
และในชีวิตหนึ่งนี้ก็มีหลายครั้งที่ฉันได้พบมันโดยไม่ตั้งใจ 

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันยอมรับความผิดพลาดเหล่านั้น 
และรวบรวมสติเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ก็คือ 
การที่ฉันเข้าใจว่า ธรรมชาติของความผิดพลาด 
คือการที่มันเกิดขึ้นแล้ว จะคงอยู่อย่างถาวร 
ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ยางลบ ลบความผิดพลาด 
แต่ฉันจำเป็นต้องใช้สมองต่อเติมแก้ไขภาพวาดของฉันให้สมบูรณ์ด้วยตัวเอง 

ดังนั้น ถ้าความผิดพลาดมันเกิดขึ้นกับเราแล้ว 
การที่เราจะมานั่งร้องห่มร้องไห้ 
อ้อนวอนขอแหกกฎเพื่อใช้ยางลบกลับไปลบแก้ไขมันนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ 
สิ่งเดียวที่จะทำได้ ก็คือ รู้จักพลิกแพลงแก้ไขสิ่งเหล่านั้นด้วยสติ 
และวาดภาพของตัวเองต่อไปด้วยความระแวดระวังมากขึ้น 

ทุกคนมีดินสอหนึ่งแท่งเพื่อจะวาดภาพชีวิตของเราให้สวยงาม 
แต่เราไม่มียางลบสักก้อนที่จะเอาไปลบสิ่งที่เราทำผิดพลาดมาแล้วได้ 
ดังนั้นเราต้องตั้งใจ และมีสติทุกครั้งที่ลากเส้น 
และถึงแม้ภาพที่เราวาดจะออกมาไม่เหมือนกับภาพที่เราฝันไว้สักเท่าไหร่ 
แต่มันก็มาจากมือของเรา เราควรจะภูมิใจกับมันได้เสมอ 

ไม่ต้องกลัวหรอก แม้จะรู้ดีว่าสักวันหนึ่ง เราอาจลากเส้นบิดเบี้ยวไปบ้าง 
เพราะถึงอย่างไร ฉันเชื่อว่า ถ้าความคิดและจิตใจของเราทำงานอย่างเต็มที่ 
ภาพชีวิตของเราก็งดงามได้ โดยไม่ต้องใช้ยางลบ

อิสระที่แท้จริง

ตอนเรียน ได้เงินจากผู้ปกครองน้อย ... เราก็อยากทำงาน "จะได้มีอิสระ" หาเงินใช้เองได้ 

ตอนทำงาน เจอหัวหน้าโหด ได้เงินเดือนน้อย ... ก็อยากเติบโตเป็นหัวหน้าบ้าง "จะได้มีอิสระ" มีลูกน้อง ได้เงินเดือนเพิ่ม 

ตอนเป็นหัวหน้า เจอเอ็มดี/ซีอีโอ สั่งงานหนัก ... ก็อยากเป็นเอ็มดี/ซีอีโอบ้าง "จะได้มีอิสระ" บริหารบริษัทได้ทั้งหมด แถมได้เงินเดือนเยอะๆ ...

ตอนเป็นเอ็มดี/ซีอีโอ เจอผู้ถือหุ้นบีบหนัก จะเอายอดขาย ให้ขยายโรงงาน เพิ่้มกำไร ... ก็อยากเป็นเจ้าของกิจการบ้าง "จะได้มีอิสระ" จะได้สั่งคนได้ทุกคน หาเงินได้ก็เป็นของเราเองทั้งหมด 

ตอนเป็นเจ้าของกิจการ เจอลูกค้าโหด เอาแต่ใจ ต่อราคาจนกำไรหด ... ก็อยากเลิกทำธุรกิจ มาเป็นนักลงทุน "จะได้มีอิสระ" ไม่ต้องฟังใคร

ตอนเป็นนักลงทุน เจอรายใหญ่ปั่นหุ้นจนหัวหมุน เจอตลาดผันผวนหนัก เศรษฐกิจในประเทศไม่แน่นอน เศรษฐกิจต่างประเทศชะลอตัว เจอนักลงทุนต่างชาติที่มีเงินมากกว่า/กองทุนที่มีข้อมูลมากกว่า เอาชนะตลอด ... ก็อยากออกไปอยู่เฉยๆ เอาเงินฝากแบงก์ "จะได้มีอิสระ" ไม่ต้องง้อใคร 

ตอนไม่ต้องง้อใคร ... ก็แก่ซะแล้ว โรครุมเร้า ไม่มีแรงทำอะไร "อยากมีอิสระ" ไม่ต้องกลัวความแก่/ความตาย

พอมาถึงขั้นนี้ ก็จนปัญญา เพราะเจอความจริงว่าไม่มีใครหนีความแก่/ความตาย ได้พ้น

เรื่องราวข้างต้นช่วยบอกเราว่า "อิสระที่แท้จริง" นั้นไม่มี ... ทุุกคนต้องเผชิญข้อจำกัดของชีวิตกันทั้งสิ้น ไม่ว่าคนจนที่สุด หรือ รวยที่สุด ... ดังนั้น อย่าน้อยใจ แต่ทำชีวิตให้ดีที่สุด ให้มีประโยชน์กับตัวเองและคนรอบข้างมากที่สุด ภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่ 

นกแก้วราคาเท่าไหร่?

ชายคนหนึ่งจะไปซื้อนกแก้วที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงเห็นนกแก้วตัวหนึ่งกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และเคาะแป้นคีย์บอร์ดอยู่จึงเกิดสนใจถามคนขายว่า "นกแก้วตัวนั้นราคาเท่าไหร่?"

คนขาย : 15,000 บาท

ชายคนนั้น : แล้วมันทำไรได้บ้างล่ะ?

คนขาย : ก็ไม่เท่าไหร่ แค่ใช้ Window, Mac, Unix แล้วก็ Microsoft Office รวมทั้งซอฟแวร์อื่นๆ

ชายคนนั้น : แล้ว ไอ้ตัวข้างๆนั่นล่ะ?

คนขาย : 25,000 บาท

ชายคนนั้น : โอ้โห อย่างนี้มันคงเขียนโปรแกรมได้ด้วยมั้ง? ( หัวเราะ)

คนขาย : ก็ใช่ แถมมันยังดูแล server แล้วก็เขียนโปรแกรมจัดการกับ Database ของร้านได้ด้วยนะ

ชายคนนั้น : แล้วไอ้ตัวนั้นล่ะ ตัวที่มันนั่งเฉยๆอยู่ข้างหลังน่ะ

(ชี้ไปที่นกอีกตัว) มันทำอะไรได้บ้างล่ะ?

คนขาย : ไอ้ตัวนั้นอ่ะนะ วันๆผมไม่เห็น มันทำอะไรเลย นอกจากแหกปากด่าไอ้สองตัวที่นั่งอยู่หน้าคอมฯอยู่นั่นแหละ ผมโคตรรำคาญมันเลยคุณ

ชายคนนั้น : แล้วไอ่ตัวนั้นราคาเท่าไหร่ล่ะ?

คนขาย : 100,000 บาท

ชายคนนั้น : เฮ้ย ทำไมแพงล่ะ ก็ไหนบอกว่ามันทำอะไรไม่เป็น ดีแต่ด่า?

คนขาย : ผมก็ไม่รู้ แต่เห็นไอ้ 2 ตัวนั้น เรียกมันว่า "หัวหน้า"

ไก่แก่ ไก่หนุ่ม

ณ ฟาร์มไก่แห่งนึง มีแม่ไก่สาว 25 ตัว ไก่ตัวผู้แก่ๆ 1 ตัว
เจ้าของฟาร์ม จึงตัดสินใจซื้อไก่หนุ่มเพิ่มอีก1ตัว
ไก่แก่: ยินดีต้อนรับ พ่อหนุ่ม ต่อไปเราจะทำงานร่วมกัน
ไก่หนุ่ม: เฮ้ย  ลุง แก่แล้ว พักเถอะ ทั้งเล้าเนี่ย ผมตัวเดียว ก็พอ
ไก่แก่:งั้นแบ่งให้ข้า สักตัวเถอะ
ไก่หนุ่ม: ไม่ได้  หรอก ลุง แบ่งไม่ได้
ไก่แก่: เอางี้ พ่อหนุ่ม เรามาวิ่งแข่งกัน 50เมตร เองต่อให้ข้า 10เมตร ถ้าเองชนะ เอาไก่สาวๆไปหมดเลย แต่ถ้าเองแพ้ เองต้องแบ่งให้ข้า 1 ตัว ตกลงไหม?
ไก่หนุ่ม: ตกลง  ลุง ว่าแต่ต่อ 10เมตร มันน้อยไปป่าว  ลุง 555

เมื่อเริ่มแข่งขัน
ในขณะที่ ไก่หนุ่ม กำลังวิ่งไล่กวด ไก่แก่แบบ กระชั้นชิด จวนที่จะถึงตัว  ไก่แก่ 
"ปั้ง"  สิ้นเสียงปืน พร้อมลมหายใจสุดท้ายของไก่หนุ่ม 
เจ้าของฟาร์ม ลดปืนลงพร้อมบ่น แบบหัวเสีย  ว่า
"เป็นห่าอะไร กับชีวิตกูเนี่ยะ ซื้อไก่หนุ่มๆมากี่ตัว ทุกตัวแม่งเป็น เกย์หมด มาถึงก็ไล่ปี้ตัวผู้อย่างเดียวเลย ไก่สาวๆมีเป็นสิบไม่สน

ไก่แก่ : เสร็จกู ไอ้พวก ไก่อ่อน สอนขัน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"เห็นแก่ๆ แต่เหลี่ยมจัด"

3 สิ่งในชีวิตเราที่ไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้

3 สิ่งในชีวิตเราที่ไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้ . . .

Three irrevocable things in your life are . . .
3 สิ่งในชีวิตเราที่ไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้ . . .
Word // คำพูด
Time // เวลา
and Change // โอกาส

Three undeniable things in your life are. . .
3 สิ่งที่ควรมีในชีวิตเราคือ
Serenity... //ความสงบ
Honesty... // ความซื่อสัตย์
and Hope.. // ความหวัง

Three gems of your life are . . .
สิ่งที่มีค่า 3 สิ่งในชีวิตเรา คือ
Love // ความรัก
self-esteem // เคารพตัวเอง
and true friends. // และเพื่อนแท้

Three uncertainties in your life are . . .
ความไม่แน่นอนในชีวิต 3 อย่าง คือ
dreams. . // ความฝัน
success . . // ความสำเร็จ
and fate. // และโชคชะตา

Three things that deteriorate your life are . . .
3 สิ่งที่เป็นบ่อนทำลายชีวิตเรา คือ
liquor. . // สุรา
arrogance .. //ความหยิ่งผยอง
and anger. // และความโกรธ

* Kind hearts are the garden . . .
จิตใจดีเป็นดั่งสวน
Kind thoughts are the roots . . .
ความคิดดีเป็นรากไม้
Kind deeds are the fruits . . .
การกระทำดีเปรียบเหมือนผลไม้
Kind words are the blossoms. . .
คำพูดดี เป็นดั่งดอกไม้บานสพรั่ง

ข้อคิดดีดีของชีวิต .... ^^

วิธีการหาคู่แท้

วิธีการหาคู่แท้ ....

...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ...มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ ทันใดนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า 

ลูกศิษย์ : อาจารย์คับ ผมสงสัยจังเลยว่า เราจะหาคู่แท้เราเจอได้ไงคับ อาจารย์บอกผมหน่อยได้ไหม คับ? 

อาจารย์ : (เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบ) อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถาม ที่ง่ายเหมือนกันนะ

ลูกศิษย์ : (นั่งคิดอย่างหนัก) อืม?....งงอะไม่เข้าใจ

อาจารย์ : โอเค งั้น เธอลองมองไปทางนั้นนะ ตรงนั้นน่ะ มีหญ้าเยอะแยะ เลยใช่ไหม เธอลองเดิน ไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุด แล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียวเท่านั้นนะ แต่ว่า เวลาเธอเดินเนี่ย เธอต้องเดินไป ข้างหน้าอย่างเดียวนะ ห้ามเดินถอยหลัง เข้าใจไหม

ลูกศิษย์ : ได้เลยครับ จาน รอสักครูน่ะครับ (ว่าแล้ว ก้อวิ่งตรงไปยังสนามหญ้า) หลังจากนั้นไม่นาน....

ลูกศิษย์ : ผมกลับมาแล้วครับจาน

อาจารย์ : อืม...แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวย ๆ ในมือเธอเลยหละ

ลูกศิษย์ : อ๋อ คืองี้ครับจาน ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวย ๆ เนี่ย ผมก้อก้อคิดว่า เออ เดี๋ยว ก้อคงเจอต้นที่สวยกว่านี้ ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมัน แล้วผมก็เดินไปเรื่อย รู้ตัวอีกที มันก็สุดสนามหญ้าแล้ว ครับ จะเดินกลับก้อไม่ได้ เพราะจานสั่งห้ามไว้

อาจารย์ : นั่นแหละ คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ ... เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา ต้นหญ้า ก็คือ คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณ ต้นหญ้าที่สวยงาม ก็คือ คนที่คุณชอบ หรือคนที่ดึงดูดคุณนั่นแหละ ส่วนทุ่งหญ้า ก็คือ เวลา ... เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณ อย่ามัวแต่เปรียบเทียบ แล้ว คิดว่า คงจะมีที่ดีกว่านี้ เพราะถ้าคุณ มัวแต่ เปรียบเทียบ คุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่าลืมว่า..."เวลาไม่เคยย้อนกลับ" ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้น เรื่องนี้ ยังสามารถใช้ได้กับ การหาคนที่จะมาทำงานร่วมกับคุณในชีวิต หรือ แม้กระทั่งงานที่เหมาะสมกับคุณ ดังนั้น มันจึงเป็นสัจธรรม ที่ว่า ..."จงรัก และ ไขว่คว้า โอกาสที่คุณมีในขณะนี้ อย่ามัวแต่เสียเวลา บางครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือกแค่ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น..."

5 ห้อง ชีวิต พื้นฐาน ประจำวัน

5 ห้อง ชีวิต พื้นฐาน ประจำวัน

"ให้ความสำคัญ กับการ ฝึกนิสัย"

1.ห้องนอน : ฝึกทำใจให้ว่าง ทำสมาธิ ล้างใจให้สะอาด นอนเต็มที่
นอนให้เป็นเวลา "ถ้าเราเป็นคนตื่นไม่ตามเวลา เราจะกลายเป็นคนที่ทำงานเสร็จนาทีสุดท้ายเสมอ"

2.ห้องน้ำ : ฝึกการใช้น้ำประหยัด เกรงใจคนอื่น รักษาเวลา ฝึกล้างห้องน้ำให้เป็น"จะช่วยให้เราไม่ดูถูกคน ไม่เลือกงาน ไม่มีทิฐิ"

3.ห้องเเต่งตัว : ฝึกการตัดใจ เสื้อผ้าไม่ใช่ ต้องสละให้คนอื่น"ฝึกให้เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อเเผ่"

4.ห้องกินข้าว : ฝึกการทานอาหาร พร้อมกัน รู้จักเเบ่งปัน ตักข้าวต้องกินให้หมด ตักให้พอดีตัว เเละ ตักให้พ่อเเม่ ก่อนเสมอ

5. ห้องทำงาน : ฝึกจัดลำดับความสำคัญ อย่าให้เอกสารเต็มโต๊ะ จะบอกนิสัยไม่ตัดสินใจ ไม่มั่นใจทางความคิด กลัวไม่มีข้อมูล

5ห้อง ในชีวิต ฝึกให้เรารักสะอาด มีระเบียบวินัยตรงต่อเวลา สุภาพ เเละ ฝึกสมาธิ ให้ใจสะอาด

10 ปี 7 ครั้ง

10 ปี 7 ครั้ง 

โกวเล้งเขียนไว้ในนิยายของเขาว่า..."ชีวิตคนเราจะมีสิบปีสัก
กี่ครั้งกัน"

ถ้าคนเราอายุเฉลี่ย 70 ปี
เราก็มี 10 ปีแค่ 7 ครั้ง

๐ สิบปีแรก..หมดไปกับความไร้เดียงสา

๐ สิบปีต่อมา..หมดไปกับการศึกษาเล่าเรียน

๐ สิบปีต่อมา.หมดไปกับการทำงานและการใช้ชีวิต

๐ สิบปีต่อมา..หมดไปกับการสร้างฐานะ สร้างครอบครัว

๐ สิบปีต่อมา..หมดไปกับการลงหลักปักฐาน รักษาสิ่งที่สร้างมา

๐ สิบปีต่อมา..หมดไปกับการดูแลรักษาสุขภาพกาย-ใจให้แข็งแรง

๐ สิบปีสุดท้าย..หมดไปกับการปล่อยวางทุกสิ่ง รอคอยการกลับบ้าน

แต่ละสิบปีผ่านไป...ไวเหมือนโกหกอีกไม่นานปีนี้ก็จะผ่านไปมีอะไรที่เราทำไปแล้วมากมาย และก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่ได้ทำ

** เวลา คือ หน่วยเงินในกำมือของเราที่เอาไปแลกสิ่งอื่น

-เราเอาเวลาไปแลกงาน 
-เราเอางานไปแลกเงิน 
-แต่เราก็ไม่เคยเอาเงิน ไปแลกเวลาคืนกลับมา ได้สักที

ถ้า 'ธนาคารเวลา' มีจริงเราก็ไม่เคยมีสมุดบัญชีสักเล่มที่จะให้เราดูได้..ว่า
ตอนนี้เหลือเวลาอยู่เท่าไหร่?

** เรารู้ว่าเราใช้ "สิบปี" ของเราไปกี่ครั้งแล้วแต่เราไม่อาจรู้ว่า...เราจะใช้ "สิบปี" ที่เหลือของเราได้ครบมั้ย?

แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับเราใช้เวลาสิบปีของเราไปคุ้มค่าหรือเปล่า?เมื่อเราหันหลังกลับมาขอให้พูดได้เต็มปากว่าเราใช้มันไปอย่างไม่น่าเสียดาย

   ชีวิตคนเราจะมี "สิบปี" สักกี่ครั้งกัน ใช้สิบปี เจ็ดครั้งของเราให้คุ้มค่า

ฮาโลวีน เทียบภรรยากับผีๆ

ฮาโลวีน เทียบภรรยากับผีๆ  ภรรยากับผีเขาว่าไว้ฟัง ใว้ดีๆน่ะ !!

"แรกจีบ" เหมือน "ผีอำ" ดึกๆยังตื่นและฝันถึง
"แรกจูบ"เหมือน"ผีพราย" ...อ่อนระทวยไปทั้งตัว
"แรกแต่ง"เหมือน"ผีตานี อ่อนหวานน่าทะนุถนอม
๐"หนึ่งปีถึงห้าปี"เหมือนผีปอบ" กินจุ ดุดันกำลังน่าฟัด
"ห้าปีให้หลัง" เหมือน"ผีกระสือ" ไส้พุงกี่ขดกี่ขด เห็นหมด
"สิบปี"เมียกลายเป็น  "ผีบ้านผีเรือน"????
ส่วนสามี กลายเป็น "ผีเร่ร่อน" ไม่ค่อยอยากจะเข้าบ้าน..555..

วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

กงเต็ก IPhone 5s, IPad Role


หลังจากลูกหลานเผากงเต็ก IPhone 5s, IPad Rolex ให้อาเหล่ากง อาเหล่าม่า

ตกบ่ายอาเหล่ากง อาเหล่าม่าก็ Line มาบอกว่า..

" พวกลื้อไม่ต้องเผาอะไรมาแล้วนะ พวกอั้วมีบิ๊กซี เซ็นทรัลเวิลด์ โรงหนัง ครบมาตั้งนานแล้ว ไม่รู้ใครเผามาให้ช่วงกระชับพื้นที่ แล้วนี่เผา iphone5 s มาทำไม?  บนสวรรค์นี่เค้าเลิกใช้กันแล้ว..!"

ลูกหลาน : ทำไมอะ แล้วเทวดาเค้าใช้มือถืออะไรกัน?!
อากง : iPhone 6 โว้ย.. Steve Jobs เพิ่งมาเปิดตัวไปเมื่อวานนี้เอง...!!

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

นิทานก่อนนอนเรื่องเมล็ดพันธ์ชนะการประกวด



ครั้งหนึ่งในอเมริกากลาง
ทุก ๆ ปีจะมีการประกวดเมล็ดพันธ์ข้าวโพด
หลังจากการประกวดชายผู้ที่ชนะเลิศที่หนึ่ง
เขาทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง นั่นคือ ...

ทันทีที่เขาชนะ

เขาได้นำเมล็ดพันธ์ที่เพิ่งชนะการประกวด
แจกให้กับผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันและกล่าวว่า
เอาเมล็ดพันธ์นี้ไปปลูกน่ะ แล้วปีหน้าเรามาแข่งกันใหม่

ในปีต่อมา ...
เขาก็ชนะการประกวดเมล็ดพันธ์ข้าวโพดอีก
เขาเดินแจกเมล็ดพันธ์ที่เขาเพิ่งชนะให้กับคนอื่น ๆ
แล้วบอกว่า ...
เอาไปปลูกน่ะ แล้วปีหน้าเรามาแข่งกันใหม่

ชายผู้นี้ชนะการประกวดเมล็ดพันธ์ข้าวโพด
ติดต่อกัน 6 ครั้ง และเขาก็แจกเมล็ดพันธ์ที่ชนะ
ให้ผู้แข่งขันคนอื่น ๆ ทุกปี

มีนักข่าวถามเขาว่า ...
ไม่เป็นการง่ายกว่าหรือ ถ้าเขาเก็บเมล็ดพันธ์ที่ดี
โดยไม่แบ่งคนอื่น เขาก็จะได้ชนะง่าย ๆทุกปี

เขาตอบว่า ... แสดงว่า ...
คุณไม่เข้าใจในการปลูกพืช คุณเคยได้ยินคำว่า ...
การกลายพันธ์ไหม ถ้าไร่ของผมมีเมล็ดพันธ์ที่ดี
บังเอิญไร่ของเพื่อนบ้านมีแต่เมล็ดพันธ์ที่แย่ ๆ

วันหนึ่ง ลมก็จะพัดเอาเกสรของเมล็ดพันธ์ที่แย่ ๆ
มาตกในไร่ของผม ทำให้เมล็ดพันธ์ผมแย่ไปด้วย

มันไม่เป็นการดีหรอกหรือ ...
ที่ทุกคนมีเมล็ดพันธ์ที่ดีแล้ว ...
ถึงตอนนั้นมาแข่งกันว่า ...
ใครขยัน รดนำพรวนดินดีกว่ากัน

มีคำกล่าวว่า ...
ถ้าคุณมีเมล็ดพันธ์ความคิดที่ดี คุณเก็บไว้กับตัว
ไม่แบ่งปันใคร ถึงวันหนึ่งเมล็ดพันธ์แห่งความคิดนั้น
ก็จะตายไปพร้อมคุณ

เป็นสิ่งสำคัญในชีวิต ที่ความคิดและความรู้
ยิ่งให้ออกไป เรายิ่งได้รับกลับมา
และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คน ๆ นั้น

ประสบความสำเร็จที่มากขึ้นไปพร้อม ๆ กับ

การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าในสังคม

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รู้จักกันมา 1,825 วัน


ชายคนหนึ่ง รู้จักกับหญิงสาว ซึ่งสนิทกันมาก 
รู้จักกันมา 1,825 วัน แต่ไม่ได้เป็นแฟนกัน
เขาจดจำวันสำคัญที่เกี่ยวกับเธอได้หมด เช่น วันเกิด วันที่เธอได้หมาตัวแรก 
เขาคอยไปรับ ไปส่ง ที่บ้าน ที่เรียน ที่ตลาด ที่อื่นๆ อีกมากมาย
เขากด "ติดตาม" หญิงสาวเพื่อนสนิทของเขาไว้
เขาดูทุกรูปที่เธออัพขึ้นเฟซบุ๊ค จดจำ เรื่องราวของเธอคนนั้นเสมอ
เขาเปิดดูทุกรูป มีทั้งหมด 462 รูป จาก 21 อัลบั้ม
- มีรูปที่ยิ้มทั้งหมด 351 รูป
- มีรูปที่ไว้ผมยาว ปล่อยผม 370 รูป
เขาคุยกับเธอเกือบทุกวัน ก่อนนอนจะคุยกันเสมอ
.
.
และแล้ววันหนึ่งเขาก็เอาเรื่องราวเหล่านี้ไปบอกกับ "เธอ" คนนั้น
หญิงสาวตอบกับมาว่า "ทำไมถึงทำได้ขนาดนี้"
ชายคนนั้นตอบมาว่า "ก็ฉันชอบเธอมากนะสิ"
หญิงสาว นิ่งไปสักพักแล้วตอบมาว่า "ทำไมพูดช้าจัง .....รอคำนี้อยู่"

สนับสนุนให้คนไทยบอกรักคนที่ตัวเอง "แอบชอบ" อย่างเป็นทางการ

เด็กหญิงโบว์รู้ทัน

เด็กหญิงโบว์ไปโรงเรียนวันแรก 
เด็กชายอุ่ยบอกจะให้เงินเธอ 5 บาท ถ้าเธอปีนเสาธงให้เขาดู 
โบว์ตกลง แต่เมื่อไปเล่าให้แม่ฟัง
"อย่าไปทำอีกนะโบว์ เจ้าเด็กนั่นมันหลอกดูกางเกงใน"แม่บอก

วันรุ่งขึ้น เด็กชายอุ่ยคนเดิมพยายามชวนให้โบว์ปีนเสาธงแต่โบว์ไม่ยอมเพราะเธอจำคำสอนของแม่ขึ้นใจ 
แต่ในที่สุดโบว์ก็ยอมเพราะเด็กชายอุ่ยให้เงินถึง 50 บาท 
แม่เริ่มโกรธ "แม่บอกแล้วไงว่าเจ้านั่นมันหลอกดูกางเกงใน"
โบว์ยิ้มกริ่ม
"หนูรู้ทันแล้วค่ะ หนูเลยถอดกางเกงในออกก่อนปืนเสาธง"
.....5555

"กิ๊ก" เป็นสิ่งเสพติด

พรบ.สิ่งเสพติดให้โทษ 
ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม 
25 มีนาคม พ.ศ.2556 
"กิ๊ก" เป็นสิ่งเสพติด ประเภท 4   เป็น วัตถุออกฤทธิ์ ต่อ จิตและประสาท เสพแล้วจะทำให้ มีความสุข ลืมทุกข์ ลืมตาย
โทษภัยของมัน มีผลรุนแรง ถึง "เมีย" ทำให้ กระวนกระวาย ทุกข์ เศร้า กินไม่ได้ นอนไม่หลับ 
เกิดอาการเครียด แค้น ขาดสติ 
อาจทำร้าย คนข้างเคียง ได้โดยง่าย
ผู้ใดมีไว้ครอบครองเพื่อเสพ ต้องระวางโทษหลายอย่าง เช่น
      ถูกประณาม ประจาน หูยาน  หัวแตก ริบของกลาง หรือ
รับโทษสูงสุด คือ ตาย! 
สูงสุดๆ  คือ ตายทั้งคู่

คนขับรถ ผอ.

คนขับรถ ผอ. ชื่อหมาน เก่งเรื่องผู้หญิง มากจน ผอ. ต้องถาม. "เฮ้ยหมาน..เอ็งมีเคล็ดลับ
อะไร..วะ..ผู้หญิงถึงได้หลงใหล
แกนัก"
หมานว่า"ง่ายๆ..เจ้านาย..ก่อนผมจะมีอะไร..กับผู้หญิง...ผมเอาของผม..ฟาดหัวเตียงสามครั้ง.รับรอง..ติดหนึบ."
คืนนั้น ผอ. กลับบ้าน..อาบน้ำ..ย่องเข้าห้อง คุณนาย..ปิดไฟ
เสียงดังที่หัวเตียงปั้กๆๆ คุณนายงัวเงียครึ่งหลับครึ่งตื่น ร้อกทักว่า "นั่น..หมาน..เหรอ....จ๊ะ....."

ผู้จัดการอยากมี Sex กับเลขาสาว

ผู้จัดการอยากมี Sex กับเลขาสาวเลยบอกตรงๆว่า
“ผมขอมีอะไรด้วยได้ไหม ผมจะวางเงินไว้ให้หนึ่งพัน
ให้เธอก้มลงเก็บตังค์ พอยืนขึ้นเมื่อไหร่ ผมก็จะหยุด ok มั๊ย”
เลขาตอบ “เอ่อๆๆ หนูขอถามแฟนก่อนน๊ะค๊ะ”
แล้วเลขาก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้แฟนฟัง 
“แค่ก้มเก็บตั้งค์แล้วยืนขึ้นก็พอเหรอ …สักสองพันดีมั๊ย … ใช้เวลาแค่ก้มลงเก็บเองอีก 2 นาทีโทรกลับมาน๊ะ ก้มเก็บตังค์แป๊บเดียวเอง”
10 นาทีผ่านไป ฝ่ายชายก็โทรกลับมา 
“ทำไมไม่โทรกลับ นานแล้วเนี่ยะ”
“โอ๊วๆ อู๊ว ยางงงงง ไม่เสร็จค่ะพี่ โอ๊วๆๆๆๆ”
“ไรว๊ะก้มลงเก็บตังค์ แค่นี้เอง”
“โอ๊ววว โย๊ๆๆๆ อ๊าๆๆๆ …. 
หนูไม่รู้ว่ามันเป็นเหรีญบาทค่ะพี่ อ๊ากๆๆๆ โอ๊วววว”

เรื่องเกิดเพราะจำผิด

องค์การสหประชาชาติมีโครงการที่จะส่งคณะออกสำรวจขั้วโลกเหนือจึงจำเป็นที่จะต้องคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ จึงได้จัดให้มีการทดสอบขึ้น โดยผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบ ดังต่อไปนี้
1) ดื่ม vodga หนึ่งลิตรเต็ม ๆ ในอึกเดียว
2) จับมือกับหมีขาว
3) มี sex กับผู้หญิงเอสกิโม
ผู้สมัครคนแรกเป็นชาวอเมริกัน 
พอยกขวดเหล้าดื่มไปได้หน่อยเดียวก็ยอมแพ้ 
คนต่อมาเป็นชาวอังกฤษ ดื่มเหล้าหมดขวด
แล้วเข้าไปในเต็นท์หมีขาว แต่ไม่นานก็ต้องเผ่นหนีออกมา 
ในที่สุดผู้สมัครชาวไทยก็ปรากฏตัว ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอย่างมั่นใจ แม้ว่าจะไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษดีนักแต่ก็ยังมั่นใจว่าตัวเองจะผ่านการทดสอบ
ครั้งนี้ไปได้ตัวแทนจากสยามเมืองยิ้มเดินดุ่ม ๆ หยิบขวดเหล้ากรอกปากหมดขวดอย่างง่ายดาย หายเข้าไปในเต๊นท์หมีขาวถึงสองชั่วโมงพร้อมกับเสียง
โอดโอยของหมีขาวที่ดังเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ ๆ ทำเอาคณะกรรมการและผู้สมัครคนอื่น ๆ ตื่นตะลึงถึงความแกร่งกล้าสามารถของผู้สมัครชาว
ไทยเป็นอย่างมาก สักพักผู้สมัครชาวไทยก็โผล่ออกมาด้วยท่าทางสดชื่น
และยินดีพร้อมกับตะโกนว่า"ผู้หญิงเอสกิโมที่ผมจะต้องจับมือด้วย อยู่ที่ไหนก๊าบบบบ?