วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ทำอะไรไม่เคยดี

เล่าให้ฟัง = โม้

บอกวิธี = อวดฉลาด

เงียบ = โง่

ฟังเฉย ๆ = ไม่เห็นด้วย

ยอม = อ่อนแอ

ไม่อธิบาย = ยอมรับผิด

ทำงานเป็นกะ

A: นี่เธอ ดึกขนาดนี้แล้วยังทำงานอยู่หรอ

B: ค่ะ ทำงานเป็นกะ

A: อ๋อ ทำกะดึกสินะ

.
.

.
.

.

B: กะหรี่ค่ะ

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นิทานก่อนนอนเรื่องดินสอกับยางลบ

ดินสอกับยางลบ

มีดินสอที่เขียนอย่างไรก็ไม่มีวันหมดอยู่แท่งหนึ่ง มียางลบที่ลบอย่างไรก็ไม่มีวันหมดอยู่ก้อนหนึ่ง
ฟังดูอาจตลกทุกคนอาจคิดว่าดินสอกับยางลบเป็นของคู่กันแต่ลองอ่านดูก่อน ดินสอแท่งนั้นเป็นเพื่อนกับยางลบก้อนนั้น ทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกันทำอะไรด้วยกัน

หน้าที่ของดินสอก็คือเขียน มันจึงเขียนทุกที่ทุกอย่างเสมอตลอดเวลาที่อยู่กับยางลบ หน้าที่ของยางลบก็คือลบ มันจึงลบทุกอย่างที่ดินสอเขียนทุกที่ทุกเวลา เวลาผ่านไปนานหลายสิบปี ทุกอย่างก็ยังดำเนินเหมือนเดิมเรื่อยมา

จนกระทั่ง ดินสอเอ่ยกับยางลบว่า เรากับนายคงอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว ยางลบจึงถามว่า ทำไมล่ะ ดินสอจึงตอบกลับไปว่า ก็เราเขียนนายลบแล้วมันก็ไม่เหลืออะไรเลย ยางลบจึงเถียงว่า เราทำตามหน้าที่ของเราเราไม่ผิด ทั้งคู่จึงแยกทางกัน

ดินสอพอแยกทางกับยางลบ มันก็ดีใจที่สามารถเขียนอะไรได้ตามใจมัน แต่พอเวลาผ่านไป มันเริ่มเขียนผิดข้อความที่สวยๆที่มันเคยเขียนได้  ก็สกปรกมีแต่ รอยขีดทิ้งเต็มไปหมด มันคิดถึงยางลบจับใจ

ฝ่ายยางลบพอแยกทางกับดินสอ มันก็ดีใจที่ตัวมันไม่ต้องเปื้อนอีกต่อไป พอเวลาผ่านไปมันกลับใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าเพราะไม่มีอะไรให้ลบ มันคิดถึงดินสอจับใจ

ทั้งคู่จึงกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่คราวนี้ดินสอเขียนน้อยลงเขียนแต่สิ่งทีดี ส่วนยางลบก็ลบเฉพาะที่ดินสอเขียนผิดเท่านั้น

ถ้าเปรียบการเขียนเป็นการจำ ดินสอในตอนแรกก็จำทุกเรื่องทั้งดีและไม่ดี  แต่พอเปลี่ยนไปมันก็หัดเลือกจำแต่สิ่งดีๆเท่านั้น  ส่วนการลบเปรียบเหมือนการลืม ยางลบในตอนแรกก็ลืมทุกอย่างทั้งดีและไม่ดี แต่ทุกครั้งที่ลืมเรื่องไม่ดีตัวมัน ก็จะสกปรก  แต่ตอนหลังมันเลือกลืมแต่เรื่องไม่ดี หรือ คือการให้อภัยนั่นเอง ฉะนั้นการเปรียบการเดินทางของทั้งคู่ดุจมิตรภาพ คือ การจำแต่สิ่งดีๆและลืมในสิ่งที่อาจผิดพลาดบ้าง ขอให้ทุกคนเป็นอย่างดินสอกับอย่างลบตอนหลังนะ

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นิทานก่อนนอนเรื่องคาราเต้กับชัยชนะ

คาราเต้กับชัยชนะ

อาจารย์คาราเต้อาวุโสชาวตะวันออก เดินคุยอยู่กับลูกศิษย์อเมริกันวัยเยาว์ที่ชายหาด อาจารย์หยุดแล้วเอาเศษไม้ที่ถืออยู่ในมือขีดเส้นสองเส้นบนชายหาด เส้นหนึ่งยาวประมาณ 6 ฟุต อีกเส้นหนึ่งสั้นประมาณ 4 ฟุต ขีดเสร็จอาจารย์ก็หันมาถามลูกศิษย์ว่า

"ทำเส้นที่สั้นกว่า (4 ฟุต) ให้ยาวกว่าเส้นที่ยาวกว่าได้อย่างไร"

ลูกศิษย์ก็เอาเท้าไปลบเส้นที่ยาวกว่าจนสั้นลงกว่าเส้นที่สั้น อาจารย์มองหน้า แล้วตบศีรษะไปทีหนึ่ง แล้วบอกว่า

"ไอ้โง่ ทำอย่างนี้ไม่ได้ ผิดวัฒนธรรมคาราเต้อย่างร้ายแรง" ว่าแล้วก็ขีดเส้นสองเส้นบนชายหาดอีกที เส้นหนึ่งยาวและอีกเส้นหนึ่งสั้นเหมือนเดิม แล้วหันไปถามลูกศิษย์อีกครั้งว่า

"ทำอย่างไรจะทำให้เส้นที่สั้นกว่ายาวกว่าเส้นที่ยาวได้"  เด็กก็ตอบว่า "ไม่ทราบ" พร้อมตีหน้างง  อาจารย์ก็เลยทำให้ดู โดยเอาไม้ในมือไปลากเส้นต่อจากเส้นที่สั้นกว่า ให้ยาวออกไป เส้นที่สั้นกว่าก็ยาวกว่าในทันที ลูกศิษย์มองหน้าอาจารย์อย่างสงสัย  อาจารย์ก็เลยอธิบายว่า

"การเอาชนะคะคานกันในโลกนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ไม่ใช่การไปหาทางทำลายคู่แข่งให้ย่อยยับไป  ตรงกันข้าม การกระทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ในสังคมคาราเต้ เพราะไม่ใช่การกระทำของสุภาพบุรุษ และเป็นวิธีที่ในที่สุดแล้วไร้ผลเป็นอย่างยิ่ง  การต่อสู้ที่ถูกต้องในโลกนี้คือ การพัฒนาตัวเองให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นิทานก่อนนอนเรื่องยามเฝ้าวัสดุ

กาลครั้งหนึ่งรัฐบาลของประเทศสารขัณฑ์ได้เอาวัสดุก่อสร้างที่ยังไม่ใช้ไปกองไว้กลางแจ้ง แต่รัฐกลัวว่าจะมีคนดอดไปขโมย จึงสร้างตำแหน่งงานใหม่ 1 ตำแหน่ง คือ ยาม เพื่อไปเฝ้าวัสดุ

ต่อมา รัฐบอกว่า " ยามจะทำงานโดยไม่มีคำสั่งคอยกำกับได้ยังไง" รัฐจึงตั้งฝ่ายวางแผนแล้วจ้างคนเขียนคำสั่งคนหนึ่งกับคนคอยดูแลการปฏิบัติตามคำสั่ง ให้ทันตามกำหนดเวลาคนหนึ่ง

จากนั้น รัฐบอกว่า " เราจะรู้ได้ยังไงว่า ยามทำงานได้ถูกต้อง"จึงตั้งฝ่ายควบคุมคุณภาพงานขึ้นจ้างคนหนึ่งมาคอยดูแลการทำงานของยาม และอีกคนหนึ่งคอยเขียนรายงาน

รัฐบอกอีก " แล้วคนพวกนี้จะได้รับค่าจ้างกันยังไง " จึงจ้างคนคอยดูแลเวลาทำงานของลูกจ้างฝ่ายต่างๆ กับคนคอยจ่ายเงินเดือนเข้าไปอีก 1 ตำแหน่ง

ต่อมารัฐสงสัยว่า "แล้วใครจะรับผิดชอบการทำงานของคนทั้งหมดนี้" จึงตั้ง เจ้าหน้าที่บริหาร 1 คน ผู้ช่วยผู้บริหาร 1 คน และเลขาอีก 1 คน

ในที่สุด รัฐบอกว่า " ปีนี้เศรษฐกิจตกต่ำ ต้องตั้งงบประมาณขาดดุล จึงต้องปลดลูกจ้างออก  1 คน "รัฐจึงได้ปลด ยาม ออกไป

เลยอดสงสัยว่ายามผิดตรงไหนที่ต้องโดนไล่ออก ทั้งๆที่เข้ามาดูแล Project นี้เป็นคนแรก ...

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นิทานก่อนนอนเรื่องการตลาดในแอฟริกา

มีบริษัททำรองเท้าแห่งหนึ่งคิดจะไปบุกเบิกการค้าที่ตลาดแอฟริกาจึง ได้ส่งพนักงานฝ่ายการตลาด 2 คน ไปตรวจสอบว่า ตลาดที่แอฟริกาเป็นอย่างไรบ้าง

หลายเดือนผ่านไป พนักงานฝ่ายการตลาดทั้ง 2 คนก็กลับมา แล้วนำรายงานกลับมา แต่คนทั้ง 2 มีทัศนคติที่ไม่เหมือนกัน รายงานการการตลาดที่ทั้งสองนำเสนอต่อบริษัทแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

นาย ก : "ไม่มีหวังเลยครับ คนที่นั่นไม่ได้ใส่รองเท้ากันเลยสักคน"
นาย ข : "คงไปได้สวยทีเดียวที่เราจะไปบุกเบิกที่นั่น เพราะคนที่นั่นยังไม่มีรองเท้าใส่กันเลย"

ถ้าคุณเป็น CEO ของบริษัทคุณจะตัดสินใจอย่างไรดี ?

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นิทานก่อนนอนเรื่องหญิงชราร้องไห้

มีหญิงชราคนหนึ่ง เวลาฝนตกเธอก็ร้องไห้ อากาศดีเธอก็ร้องไห้  ชายหนุ่มคนหนึ่งแปลกใจจึงถามหญิงชราผู้นี้ว่า

ชายหนุ่ม : "เพราะอะไร เวลาฝนตกยายก็ร้องไห้ อากาศดีก็ร้องไห้"

 หญิงชรา : "เพราะว่าป้ามีลูกชาย 2 คน ลูกชายคนโตขายน้ำแข็ง ลูกชายคนเล็กขายร่ม เวลาที่อากาศดี ป้าจึงคิดถึงลูกชายคนเล็กว่าต้องขายไม่ดีแน่นอน และเวลาที่ฝนตกป้าก็คิดถึงลูกชายคนโต น้ำแข็งของเขาต้องขายไม่ดีเหมือนกัน  เพราะฉะนั้นทุกๆ วัน ป้าจึงได้กลุ้มใจและทุกข์ใจอยู่อย่างนี้"

ชายหนุ่มจึงบอกกับหญิงชราผู้นี้ว่า

ชายหนุ่ม : "ยาย...ยายคิดผิดแล้วล่ะ!!! ที่จริงแล้วทุกๆ วัน ท่านต้องดีใจถึงจะถูก  วันไหนที่ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศปลอดโปร่ง ยายก็ต้องดีใจกับลูกชายคนโตสิ ที่น้ำแข็งขายดิบขายดี ถ้าวันไหนฝนตก ยายก็ต้องดีใจไปกับไปกับลูกคนเล็กด้วย ที่ร่มเขาขายดีเป็นเทน้ำเทท่า"

พอหญิงชราได้ฟังดังนั้น เหมือนกับได้ตื่นขึ้นจากความฝัน ตั้งแต่นั้นมาไม่ว่าอากาศจะเป็นอย่างไร หญิงชราผู้นี้ได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จำไม่ค่อยได้


นักเรียน : ครูครับเมื่อวานผมหลงป่า ผมเจอเจ้าที่เจ้าทางด้วยครับ
ครู: แล้วเป็นไงบ้างล่ะ ?
นักเรียน : เค้าให้พรผมว่า อยากให้ความจำดีหรือจู๋ใหญ่ เค้าให้ผมเลือกครับ
ครู: แล้วเธอเลือกอะไรล่ะ ??
นักเรียน : ผมจำไม่ค่อยได้ครับ ..

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ที่บ้านชอบเลี้ยง สัตว์ไหม

คุณครู : เด็กชายตาใหม่ ที่บ้านชอบเลี้ยง สัตว์ไหม ?
ตาใหม่ : ผมชอบแมว พ่อผมชอบ หมา ครับ
คุณครู : แล้วคุณแม่ละ
ตาใหม่ : ไม่รู้สิครับ แต่ผมเห็นพ่อบอกว่า แม่ชอบ แรด ครับ
คุณครู : ..... !!!

นิทานก่อนนอนเรื่องเด็กน้อยกับตะปูแห่งความแค้น

มีเด็กน้อยคนหนึ่งที่สีหน้าแสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก พ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขาถุงหนึ่งและบอกกับเขาว่า "ทุกครั้งที่เขารู้สึกโมโห หรือโกรธใครสัก ให้ตอกตะปู 1 ตัว เข้าไปกับรั้วที่หลังบ้าน"

วันแรกผ่านไป เด็กน้อยคนนั้นตอกตะปูเขาไปที่รั้วหลังบ้านถึง 37 ตัว และก็ค่อยลดจำนวนลงเรื่อย ๆ ในแต่ละวันที่ผ่านไป อย่างน้อยก็คือการรู้จักควบคุมอารมณ์ ของตนเองให้สงบ ซึ่งง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ และแล้วหลังจากที่เขาสามารถควบคุมตนเองได้ดีขี้น ใจเย็นมากขึ้น เขาจึงเข้าไปพบพ่อและบอกพ่อว่า เขาสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้แล้ว ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็น พ่อยิ้มและบอกกับลูกชายว่า "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเจ้าต้องพิสูจน์ให้พ่อรู้ โดยทุกครั้งที่เขาสามารถควบคุม อารมณ์ฉุนเฉียวของตนเอง ได้ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้าน 1 ตัว"

วันแล้ววันเล่า เด็กน้อยคนนั้นก็ค่อย ๆ ถอนตะปูออกทีละตัว จาก 1 เป็น 2....จาก 2 เป็น 3 จนในที่สุดตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออกมา เด็กน้อยดีใจมากรีบวิ่งไปบอก กับพ่อเขาว่า "ฉันทำได้ในที่สุดฉันก็ทำจนสำเร็จ!!" พ่อไม่ได้พูดอะไรแต่จูงมือลูกชายของเขาออกไปที่รั้วบ้านและบอกกับลูกว่า ทำได้ดีมาก ลูกพ่อ และเจ้าลองมองกลับไปที่รั้วเหล่านั้นสิ เห็นไหมว่ามันไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือน กับที่มันเคยเป็น"

"จำไว้นะลูก เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์สิ่งนั้นมันจะเกิด เป็นรอยแผลเหมือนกับการเอามีดที่แหลมคมไปแทงใครสักคน ต่อให้พูดคำขอโทษสักกี่หนก็ไม่อาจลบความเจ็บปวด ไม่อาจลบรอยแผลที่เกิดขึ้นกับเขาคนนั้นได้" 

"ฉันใดก็ฉันนั้น กับเพื่อน เพื่อนเปรียบเสมือนอัญมณีมีค่าที่หายาก เป็นคนที่ทำให้เรายิ้ม เป็นคนที่คอยให้กำลังใจ และยินดีเมื่อเราพบกับความสำเร็จ เป็นคนที่คอยปลอบใจ เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราและจริงใจกับเราเสมอ แสดงให้เขาเห็น ว่าเราห่วงใยเขามากแค่ไหน และระวังสิ่งที่เราทำไปไม่ว่าจะเป็นคำพูด หรือการกระทำ และจงจำไว้เสมอว่าคำขอโทษ ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น คือรอยร้าวที่เขาคงไม่อาจลืมมันได้ ตลอดไป"


วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นิทานก่อนนอนเรื่องชาวนากับนาฬิกาเรือนโปรด

ชาวนาคนหนึ่ง หลังจากไปทำความสะอาดคอกม้า ออกมาก้อพบว่านาฬิกาพกของตน ได้หล่นหายไปเสียแล้ว นาฬิกาพกเรือนนี้มีความหมายต่อเขาอย่างมาก ด้วยเป็นของขวัญ ที่แม่ของเขาทิ้งไว้ให้ เขารีบวิ่งกลับไปที่คอกม้า รื้อหาจนทั่วบริเวณแทบพลิกแผ่นดินหา แต่ก้อหาไม่พบ

เขาเดินออกมาจากคอกม้าด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว มองไปเห็นมีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกันอยู่ แถวนั้น เขาจึงได้คิดว่าอาจเป็นเพราะตัวเองแก่แล้วหูตาฝ้าฟาง ทำให้หาไม่เจอ แต่เด็ก ๆ หูตายังแหลมคม น่าจาหาเจอก็เป็นได้ 

เขาจึงเรียกเด็ก ๆ มาแล้วบอกว่า "เด็กๆ ถ้าใครหานาฬิกาพกของลุงเจอ ลุงจะให้เงินคนนั้นหนึ่งเหรียญ"

 เด็ก ๆ พากันวิ่งกรูเข้าไปในคอกม้า จนเวลาผ่านไปนานโข ตอนที่เด็ก ๆ เดินกลับออกมาจาก คอกม้าทีละคน ต่างมีสีหน้าผิดหวังที่หานาฬิกาพกไม่เจอ ขณะที่ชาวนากำลังถอดใจคิดจะเลิกหานั่นเอง ก็มีเด็กคนหนึ่งมากระซิบกระซาบบอกกับเขาว่า "ผมจะลองเข้าไปหาดู! อีกครั้งหนึ่ง

แต่คราวนี้ขอให้ผมเข้าไปคนเดียวเท่านั้น" ชาวนามองตามหลังเด็กชายไปอย่างไม่มั่นใจ คิดในใจว่าพวกเราแทบจะพลิกคอกม้าหายังไม่เจอ แล้วลำพังเด็กคนเดียว จาหาเจอได้อย่างไร

เด็กคนนั้นเข้าไปตั้งนาน ก็ยังไม่กลับออกมา ชาวนาเริ่มสิ้นหวัง ในขณะชาวนาคิดจะเลิกรอและจากไปนั่นเอง เด็กชายคนนั้นก็เดินออกมาจากคอกม้า ในมือของเขาถือนาฬิกาพกเรือนหนึ่ง ชาวนาถามด้วยความแปลกใจว่า "เจ้าหาเจอได้อย่างไร" เด็กชายบอกว่า "พอเข้าไปข้างใน ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่นั่งเงียบๆ อยู่ที่พื้น ไม่นานผมก็ได้ยินเสียง ติ๊กตอก ติ๊กตอก จากนั้นผมก็เดินตามเสียงไป แล้วผมก็เจอนาฬิกาเรือนนี้"

เพื่อนคิดว่านิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ?

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นิทานเรื่องกบฟุ้งซ่าน ข้างกำแพงวัด

นิทานเรื่องกบฟุ้งซ่าน ข้างกำแพงวัด

กบ ฟุ้งซ่านตัวหนึ่งนั่งอยู่ข้างกำแพงวัด ทุกเช้ามันเฝ้าดูพระออกเดินบิณฑบาตตั้งแต่เช้ามืด พอพระกลับมาถึงวัดเพื่อฉันเช้ากบมันนึกในใจ อยากเกิดเป็นพระ เป็น พระสบายดี มีคนถวายอาหารให้กินทุกวัน เมื่อพระฉันเสร็จ ก็นำอาหารที่เหลือมากมายนั้นไปให้เด็กวัดกินต่อ แล้วเด็กวัดก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย

ตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็นเด็กวัด แล้ว เพราะสบายกว่าพระมันเห็นเด็กวัดหลายคนตื่นสายได้และไม่ต้องออกตามพระไปบิณฑบาตก็ได้ สบายกว่าเยอะเลย...เมื่อเด็กวัดกินเสร็จ ก็โกยเศษอาหารที่เหลือทั้งหมดให้หมาวัดไปกินแล้วเด็กวัดทุกคนก็ไปช่วยกันล้างจาน ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็นหมาวัด แล้ว เพราะไม่ต้องล้างจาน เหมือนเด็กวัด สบายกว่า

พอหมาวัดกินอาหารเสร็จก็แยกย้ายไปทำหน้าที่เฝ้าบริเวณวัด คอยเห่าคนแปลกหน้าฝูงแมลงวันก็บินมาตอมและกินเศษอาหารต่อจากหมาวัด ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ(อีกแล้ว) อยากเกิดเป็นแมลงวัน เพราะสบายที่สุดไม่ต้องทำอะไรเลย หนำซ้ำยังมีกองอาหารให้กินไม่มีหมดด้วย ขณะที่เจ้ากบฟุ้งซ่านกำลังคิดเพลินๆอยู่นั้น พอดีหันมาเห็นแมลงวันบินมาใกล้ๆ จึงใช้ลิ้นตวัดเอาแมลงวัน เข้าปากตัวเองกินโดยสัญชาตญาณ

ถึงตอนนี้ กบฟุ้งซ่าน จึงบรรลุธรรมฉับพลัน

เพื่อนๆคิดว่านิทานเรื่องนี้สอนว่าอย่างไร

นิทานก่อนนอนเรื่องรางรถไฟกับการตัดสินใจ



มีเด็กกลุ่มหนึ่งเล่นกันใกล้รางรถไฟ 2 ราง
รางหนึ่งอยู่ในระหว่างการใช้งาน
ในขณะที่อีกรางหนึ่งไม่ได้ใช้งานแล้ว
มีเพียงเด็กคนเดียวเท่านั้นที่เล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งาน
ส่วนเด็กที่เหลือนั่งเล่นอยู่บนรางที่ยังใช้งานอยู่

เมื่อรถไฟแล่นมา คุณอยู่ใกล้ๆที่สับรางรถไฟ
คุณสามารถเปลี่ยนทางรถไฟไปยังรางที่ไม่ได้ใช้งาน
เพื่อช่วยชีวิตเด็กส่วนใหญ่
แต่นั่นหมายถึงการเสียสละชีวิตของ
เด็กคนที่เล่นอยู่บนรางที่ไม่ได้ใช้งาน

หรือคุณเลือกจะปล่อยให้รถไฟวิ่งทางเดิม?

ลองหยุดคิดสักนิด มีทางเลือกใดที่เราสามารถตัดสินใจได้
คุณต้องทำการตัดสินใจก่อนที่จะอ่านต่อไป
แต่ รถไฟไม่สามารถหยุดรอให้คุณไตร่ตรองได้

คนส่วนมากอาจเลือกที่จะเปลี่ยนทางรถไฟ
และยอมสละชีวิตของเด็กคนนั้น

ผมคิดว่า คุณก็อาจจะคิดเช่นเดียวกัน
แน่นอน ตอนแรกผมก็คิดเช่นนี้เพราะการช่วยชีวิตเด็กส่วนมาก
ด้วยการเสียสละชีวิตเด็กหนึ่งคนนั้นดูสมเหตุผล
ทั้งทางศีลธรรมและความรู้สึก

แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่าเด็กที่เลือกเล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
ที่จริงเขาได้ตัดสินใจถูกต้อง ที่จะเล่นในสถานที่ๆปลอดภัยแล้วต่างหาก
แต่ทว่า เขากลับต้องเสียสละชีวิตให้กับเพื่อนที่ไม่ใส่ใจ
และเลือกที่จะเล่นในที่อันตราย

สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นรอบตัวเราทุกวัน
ในสถานที่ทำงาน ย่านชุมชน การเมือง
โดยเฉพาะในสังคมประชาธิปไตย
คนกลุ่มน้อยมักจะถูกเสียสละให้กับผลประโยชน์ของคนหมู่มาก

แม้ว่าคนกลุ่มน้อยจะฉลาด มองการณ์ไกล และคนหมู่มากจะโง่เง่า ไม่ใส่ใจก็ตาม
เด็กคนที่เลือกที่จะไม่เล่นบนรางที่อยู่ในการใช้งานตามเพื่อนๆของเขา
และคงไม่มีใครเสียน้ำตาให้หากเขาต้องสละชีวิตก็ตาม

เพื่อนที่ส่งต่อเรื่องนี้มาบอกว่า เขาจะไม่พยายามเปลี่ยนเส้นทางรถไฟ
เพราะเขาเชื่อว่าเด็กที่เล่นอยู่บนรางที่อยู่ในการใช้งานย่อมรู้ดีว่า
รางนั้นยังอยู่ในระหว่างการใช้งาน
และพวกเขาควรจะหลบออกมาเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงหวูดรถไฟ

ถ้าทางรถไฟถูกเปลี่ยน เด็กหนึ่งคนนั้นต้องตายอย่างแน่นอน
เพราะเขาไม่เคยคิดว่ารถไฟจะเปลี่ยนมาใช้เส้นทางนั้น
นอกจากนั้น รางที่ไม่ได้ถูกใช้งานอาจเป็นเพราะรางนั้นไม่ปลอดภัย
ถ้ารถไฟถูกเปลี่ยนเส้นทางมาที่รางนี้
เราทำให้ชีวิตของผู้โดยสารทั้งหมดตกอยู่ในอันตราย
ในขณะที่คุณพยายามช่วยชีวิตเด็กจำนวนหนึ่งโดยการสละชีวิตเด็กหนึ่งคน
อาจกลายเป็นการสังเวยชีวิตผู้คนนับร้อยก็เป็นได้

เรารู้ว่าชีวิตเต็มไปด้วยการตัดสินใจอันยากลำบาก บางครั้งเราอาจลืมไปว่า
การตัดสินใจอันรวดเร็วใช่จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
จำไว้ว่า สิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่นิยมปฎิบัติ
และสิ่งที่เป็นที่นิยม ไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไป
ทุกๆคนสามารถทำสิ่งผิดพลาดได้
และนั่นคือเหตุผลที่เขาใส่ยางลบไว้ที่ปลายของดินสอ

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นิทานก่อนนอนเรื่องช้อนยาวหนึ่งเมตร

นิทานก่อนนอนเรื่องช้อนยาวหนึ่งเมตร

มีชาวเดนมาร์คคนหนึ่งนอนหลับอยู่ที่บ้านในเวลากลางคืน

มีนางฟ้าลงมาหาเขา ชวนให้ไปเที่ยวสวรรค์กับนรก เขาก็ตกลงไปด้วย นางฟ้าพาไปที่ที่หนึ่ง แล้วบอกว่า "ถึงนรกแล้ว" ที่นั้นเป็นห้องใหญ่ๆ มีโต๊ะยาวๆ บนโต๊ะมีอาหารที่ประณีตอร่อยมีคุณค่าทุกประเภท ........... มีคนนั่งอยู่หลายคนนางฟ้าก็บอกว่า "นี่สัตว์นรก"

คนเหล่านั้นนั่งมองอาหารที่น่ากินที่สุดในโลก แต่ตัวเขาผอมเหลืองน่าสงสาร นางฟ้าบอกว่าที่นี่อนุญาตให้กินอาหารดี ๆได้ แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามใช้มือหยิบ ต้องใช้ช้อนที่ยาวหนึ่งเมตรตักอาหารกินเท่านั้น เวลาจะใช้ช้อนตักอาหารเข้าปากตัวเอง คนที่นรกก็ตักไม่ถึงสักที อาหารที่อร่อยหกลงบนพื้นเกือบหมด เขาเลยมีความวุ่นวายเดือดร้อนมาก พยายามตักอาหารเท่าไรก็ไม่ถึงปาก .......... จึงผอมโซเพราะอดอาหาร ทั้งที่อยู่ใกล้ชิดอาหารที่อร่อยมีคุณค่าทางโภชนาการ  แต่ไม่สามารถเอาเข้ามาถึงในปากของตนเองได้

นางฟ้าพาไปอีกห้องหนึ่งแล้ว บอกว่า "ถึงสวรรค์แล้ว" ห้องที่สองนี้มีลักษณะเช่นเดียวกับห้องแรกทุกประการ มีโต๊ะอาหารยาวๆ อาหารประณีตหลายๆ อย่างเหมือนกันกับห้องนรก ............ มีเก้าอี้รอบ มีคนนั่งอยู่หลายคน นางฟ้าบอกว่า " นี่เทวดาบนสวรรค์"

แต่แปลกที่คนบนสวรรค์นั้นยิ้มแย้มแจ่มใสอ้วนท้วนสมบูรณ์สบาย ดูว่าเขากินอาหาร อย่างไร ทั้งๆที่เขาก็ต้องใช้ช้อนยาวหนึ่งเมตรเหมือนกับที่นรก " เอ...ทำไมมันไม่เหมือนที่นรก ? ทำไมคนที่นี่สนุกสนานแจ่มใสร่าเริง แข็งแรง" พอดูดี ๆ อ้อ! เห็นวิธีของชาวสวรรค์ ............ คือคนข้างหนึ่งของโต๊ะ เขาตักอาหารด้วยช้อนยาว ๆ เอาไปป้อนใส่ปาก ของคนตรง ข้าม ............. คนอีกข้างก็ตักอาหารมาใส่ปากของคนข้างนี้ ก็เลยได้กินกันทุกคน อยู่อย่างสุขสบาย สรุปว่า ที่นรกนั้น คนคิดแต่จะได้อย่างเดียว คิดแต่เรื่องความสุขของตัวเอง .............. คิดแต่ว่าเราจะได้อาหาร ได้สิ่งที่เราชอบ โดยไม่คิดถึงคนอื่น แต่ที่สวรรค์นั้นมีการช่วยเหลือกัน มีความรักสามัคคีกัน ..................... คำนึงถึงความสุขของคนอื่นด้วย จึงก็ได้รับความสุขทั่วถึงกันทุกคน หากเราอยากสร้างสังคมให้เป็นสุขดั่ง สวรรค์

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ตื่นขึ้นมาแต่ละวัน ขออย่าถามว่าเราจะตักตวงอะไร จะได้อะไรจากสังคม แต่จงถาม ให้มากว่า จะให้อะไรกับสังคมและคนอื่น

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ลดพุง

สองผัวเมีย มีเซ็กส์กัน อยู่ในห้อง ทั้งเสียงร้อง เสียงเตียง ดังหนักหนา จนทำให้ ลูกน้อย ตื่นขึ้นมา เห็นเต็มตา ว่าทำ อะไรกัน ถึงตอนเช้า

ลูกถาม เพราะสงสัย ว่าทำไม แม่ขึ้นนั่ง พ่ออย่างนั้น ส่วนคุณแม่ บอกลูก แก้ตัวพลัน ที่แม่นั่ง พ่อนั้น เพื่อลดพุง คุณพ่อยิ้ม เริงร่า ประทับจิต ชมความคิด ของเมีย ช่างหัวสูง ที่ขึ้นนั่ง ทั้งขย่ม เพื่อลดพุง ช่างหัวสูง จริงหนอ นี่เมียใคร ลูกจึงพูด มันคงลด ไม่ได้หรอก ลูกน้อยบอก เพราะลูก เห็นคนใช้ มาเป่าลม ตรงที่แม่ นั่งลงไป มันจะลด ได้ไง แม่คิดดู...

พ่อหนูสอนมาดี

พ่อหนูสอนมาดี
 
"หนูรู้จักตัวเลขมั้ยจ๊ะ" ครูอนุบาลถามไอ้หนูคนหนึ่งที่พึ่งจะมาโรงเรียนวันแรก 
"รู้คับ" ไอ้หนูพยักหน้าหงึกๆ "พ่อผมสอนผมคับ" 
"จริงหรือจ๊ะ เอ้า... เลขอะไรอยู่หลังเลขสามจ๊ะ" ครูลองภูมิ 
"สี่คับ" ไอ้หนูตอบอย่างมั่นใจ 
"แล้วเลขอะไรตามหลังเลขหกจ๊ะ" ครูถามต่อ 
"เจ็ดคับ" ไอ้หนูทำดีอีกครั้ง 
"แหม... เก่งจังนะจ๊ะ พ่อหนูสอนมาดีจัง" ครูชม "เอ้า... แล้วรู้มั้ยจ๊ะว่าอะไรตามหลังสิบ" 
"แจ๊คคับ!!!"

ซักผ้า

มีอยู่ว่า สามี ภรรยาคู่หนึ่งอาศัยอยู่ร่วมกันมานาน
 
จนมีลูกชายคนหนึ่งอายุ 7 ขวบ
 
เรียกได้ว่าอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นพอดี
 
เพราะฉะนั้นเวลาที่สามีภรรยาคู่นี้จะพูดจะจาอะไร
 
ก็ต้องระวังเพราะว่ากลัวลูกจะจำไปพูด 
 
จึงมีการทำข้อตกลงกันว่าเวลาจะมีอะไรกันตามประสาผัวเมีย
 
ต้องพูดรหัสลับว่า "ซักผ้า" ลูกชายจะได้ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน 
 
วันนึงสามีเกิดอยากจะซักผ้าขึ้นมาเลยเรียกลูกชายมาสั่งว่า
 
"นี่ลูก ไปบอกแม่เอ็งหน่อยนะว่าเดี๋ยวพ่อจะซักผ้าให้มาช่วยพ่อซักหน่อย" 
 
ลูกชายก็เลยวิ่งไปบอกฝ่ายภรรยาแต่เผอิญว่าตอนนั้น
 
ภรรยายังไม่มีอารมณ์ก็เลยบอกลูกชายว่า
 
"กลับไปบอกพ่อนะลูกว่าวันนี้เครื่องซักผ้าเสียยังใช้ไม่ได้
 
ต้องเอาไปซ่อมก่อนไว้วันหลังค่อยซัก" 
 
ลูกชายก็รับข้อความจากแม่ไปบอกพ่อตนเอง
 
พอบอกแล้วก็เป็นอันจบกันไป สามีโมโหเล็กน้อยแต่ก็ไม่ว่าอะไร 
 
แต่เมื่อถึงตอนบ่ายฝ่ายภรรยาเกิดมีอารมณ์อยากจะซักผ้าขึ้นมา
 
เลยเรียกลูกชายมาแล้วให้ไปบอกสามีว่า
 
"ลูก!ไปบอกพ่อทีนะว่าตอนนี้เครื่องซักผ้าซ่อมเสร็จแล้วใช้ได้แล้วให้มาซักได้เลยเร็วๆด้วย" 
 
ลูกชายก็รับข้อความจากแม่ไปบอกพ่อทันที 
 
แต่ฝ่ายพ่อกลับตอบฝากลูกชายมาว่า
 
"กลับไปบอกแม่เอ็งนะว่าพ่อหน่ะ ใช้มือซักเสร็จเรียบร้อยแล้วโว้ย!

ธีระพันธ์

หนุ่มเข้าขอขมาพ่อสาวหลังพาลูกสาวหนีไป

พ่อ:แกต้องรับผิดชอบ...แกได้ลูกสาวข้าไปกี่ครั้ง
 
หนุ่ม: สิบครั้งครับ

พ่อ:แกต้องแต่งงานกับลูกข้าพร้อมสินสอดหนึ่งหมื่นบาท ยอมมั๊ย
 
หนุ่ม:ยอมครับแต่ลดค่าสินสอดได้มั๊ยผมจนตังน้อย
 
พ่อ:ไม่ได้ ไม่งั้นมีเรื่่องและรีบจัดการด้วย ไอ้หนุ่ม แอบกัดฟัน :ก้อได้คับ
 
"ผ่านไป2ปีกว่า" 
 
ไอ้หนุ่มพาเมียพร้อมลูกชาย 2 ขวบมาเยี่ยมพ่อตาครั้งแรกหลังแต่งงาน
 
พ่อตาต้อนรับด้วยความดีใจลูกชายแกน่ารักนะ มันชื่ออะไร
 
ไอ้หนุ่มตอบด้วยนํ้าเสียงกระแทกหน้านิ่ง...
 
..."ธีระพันธ์"...(ทีละพัน)...

ปรองดองกันดีกว่า

สามี: สะกิดภรรยา แล้วบอกว่า
“เรามาปรองดองกันดีกว่านะ..อิอิ”
 
ภรรยา: "วันนี้ฉันเหนื่อย ไม่มีอารมณ์ปรองดองด้วย"
 
สามี: พูดด้วยอารมณ์ ไม่สมหวัง
“ฉันให้เวลาเธอ 30 นาที ถ้าเธอไม่พร้อม ฉันพร้อมอาวุธประจำกาย จะขอบุกเพื่อยึดคืนพื้นที่"
 
ภรรย : "ถ้าเธอจะบุกเพื่อยึดคืนพื้นที่ในคืนนี้ ก็จะมีแต่ความเสียหายทั้งสองฝ่าย เพราะว่าคืนนี้พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่สีแดงมา 2 วัน แล้วยังไม่ถูกยกเลิกเลย"
 
สามี: งั้นดีแล้ว คืนนี้ ฉันจะออกไปข้างนอก ไปขอกระชับพื้นที่กับ กองกำลังไม่ทราบฝ่าย

นรีกระจ่าง


ระหว่างที่สามีกำลังนั่งจิบกาแฟที่บ้าน จู่ๆแปรงซักผ้าก็ลอยมา  ผั่วะ

สามี: อะไรเนี่ย
เมีย : นี่อะไร ในกางเกงมีกระดาษ เขียนชื่อ   นรีกระจ่าง นี่ใคร
สามี: ชื่อม้าจะไปแทงพรุ่งนี้
วันรุ่งขึ้น คราวนี้ โทรศัพท์ ลอยมา  ผั่วะ
สามี: อะไรวะเนี่ย
เมีย: ม้ามึงโทรมา!!!!!!

นัดกับชายหนุ่มเป็นครั้งแรก

สาววัยขบเผาะกำลังจะมีนัดกับชายหนุ่มเป็นครั้งแรก 

แม่ของหญิงสาวเตือนหล่อนก่อนออกจากบ้านว่า"ครั้งแรกผู้ชายจะจูบที่แก้มแล้วก็จะเลื่อนมาที่หน้าอก ลูกจะรู้สึกสนุก..ต่อจากนั้นเขาก็จะขึ้นข้างบน..ลูกอย่ายอมให้เขาทำ เพราะมันจะทำให้ชื่อเสียงของครอบครัวเราเสียหาย"  

วันรุ่งขึ้นลูกสาวบอกแม่..."ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนที่แม่บอกไว้ไม่ผิด แต่หนูไม่ยอมให้เขาอยู่ข้างบน...หนูเลยอยู่ข้างบนเองเพื่อหวังจะทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของเขา

ในชนบทแห่งหนึ่ง

ในชนบทแห่งหนึ่ง

สาวเจ้านุ่งกระโจมอกอาบน้ำตอนเย็นทุกวันและในแต่ละวันไอ้หนุ่มข้างบ้านก็กะลิ้ม  กะเหลี่ยลงมา อาบน้ำในเวลาเดียวกัน

วันหนึ่งไอ้หนุ่มถามสาวเจ้าว่า  "ไม่กลัวจระเข้หรือไง"
สาวเจ้าปรายตา และพูดว่า"จระเข้น่ะมันนานๆมาครั้งไม่กลัวหรอก แต่เหี้ยนะมันมาทุกวันเลย"

ชอบวิธีคิด

ครูสาว : มีนก 5 ตัว ถูกยิงตายไปหนึ่ง จะเหลือกี่ตัวจ๊ะ?
 
โทนี่ : ไม่เหลือเลยครับ เพราะมันบินหนีหมด ตั้งแต่ได้ยินเสียงปืน
 
ครู : คำตอบที่ถูกคือ 4 ตัว แต่.. ครูก็ชอบวิธีคิดเธอนะ
 
โทนี่ : งั้นผมถามบ้างนะครับ หญิงสามคนนั่งกินไอติมโคน
 
คนแรก ค่อยๆเลียไอติมจากด้านข้าง
 
คนสอง กัดไอติมทั้งลูกเลย แล้วค่อยกินโคน
 
คนสาม อมจากด้านบน และดูดกินจนถึงกรวยด้านล่าง
 
คนไหนคือคนที่ แต่งงานแล้วครับ?
 
ครู (ตอบอย่างเขินๆ) : ครูว่า คงเป็นคนที่สามจ้ะ
 
โทนี่ : คำตอบคือ คนที่สวมแหวนแต่งงาน
:
:
แต่.. ผมก็ชอบวิธีคิดครูนะครับ

เธอเคยนอกใจฉันบ้างไหม

ที่รัก ถามจริงๆ นะ อยู่กันมา 25 ปีนี่ เธอเคยนอกใจฉันบ้างไหม?" 
"เคยค่ะ ฉันเคยนอกใจคุณสามครั้ง" ภรรยาตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก 

"ครั้งแรก ตอนที่คุณต้องผ่าตัด แต่เรามีเงิน ไม่พอ ฉันเลยไปนอนกับ หมอศัลยกรรมเพื่อให้เขาไม่คิดค่าผ่าตัด" 
"อืมม... เธอช่างมีน้ำใจกับฉันจริงๆ" สามีชม "แล้วครั้งที่สองล่ะ?" 
"จำตอนที่เขาเลือกรองประธานบริษัทได้ไหมคะ  ฉันไปนอนกับท่าน ประธานมา เขาถึงเลือกคุณไงคะ" 
"แล้วครั้งที่สามล่ะ" 
"เมื่อปีก่อนนี่เอง ตอนที่คุณอยากเป็นประธานรุ่น แต่ขาดเสียงสนับสนุนอยู่ 100 เสียงน่ะค่ะ .."

ของเล่นตามวัย


ตอนเด็ก..มีหุ่นยนต์บังคับ
ตอนวัยรุ่น..มีรถบังคับ
ตอนหนุ่ม..มีเครื่องบินบังคับ
ตอนนี้..มีเมียบังคับ
แถมเป็นรุ่นแบ็ตฯไม่มีวันหมด
ยิ่งนานวันมันยิ่งบังคับ

ใครคิดว่าตัวเองโง่ยืนขึ้น

ณ ห้องเรียน ..

ครู : "ใครคิดว่าตัวเอง'โง่' ให้ยืนขึ้น ไม่มีใครขยับตัวเลย.. .. สักพัก ด.ช. กิติ ก็ลุก ขึ้นยืน เพื่อนๆ ในห้อง ก็ต่าง พากัน หัวเราะเยาะ

 ครู : "กิติ.. เธอคิดว่า ตัวเอง 'โง่' จริงๆ เหรอ?"
 กิติ : "เปล่า ครับ.. ผม ไม่อยากให้คุณครู ยืน อยู่คนเดียว!"

มันเค็ม

บ่ายวันหนึ่ง...ขณะที่แม่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว ลูกสาวตัวน้อยของเธอก็อุ้มตุ๊กตาเดินเข้ามา...

ลูก : แม่..วันนี้หนูเพิ่งรู้ว่าไอ้จอร์ด เด็กข้างบ้านเราน่ะ จู๋มันเหมือนถั่วเลย
แม่ : ทำไมล่ะลูก มันเล็กมากเลยเหรอ
ลูก : ป่าวค่ะแม่.. มันเค็ม..

ปู่ผมอายุ 100 ปี


สุรศักดิ์มายืนรอแฟนที่ห้างแห่งหนึ่ง เขารอแฟนนานมากจึงคิดจะไปล้างหน้า หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็เหลือบไปเห็นเด็กวัยรุ่นกำลังนั่งกินช็อกโกแลค ทอฟฟี่ น้ำอัดลม เขาจึงเดินเข้าไปเตือน

สุรศักดิ์ : น้อง น้องรู้ไหมว่าของพวกนี้ไม่มีประโยชน์
เด็กวัยรุ่น : รู้เพ่ ก็ผมกินประจำ
สุรศักดิ์ : อ้าว แล้วน้องไม่เป็นไรหรือ
เด็กวัยรุ่น : ปู่ผมอายุ 100ปี
สุรศักดิ์ : ปู่น้องกินของพวกนี้ประจำเหมือนกันเรอะ
เด็กวัยรุ่น : ป่าว
สุรศักดิ์ : แล้วเอาปู่มาอ้างทำไม
เด็กวัยรุ่น : ปู่ผมไม่เคยยุ่งเรื่องชาวบ้าน อายุเลยยืน

เศรษฐีนีหาคู่

เศรษฐีนีหญิงนางนึง
อายุก็ประมาณ 40 กว่า
ได้ประกาศหาชายหนุ่ม
มาแต่งงานด้วย
แต่ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 
1. ห้ามตบตีเวลาทะเลาะกัน 
2.เวลาทะเลาะกันห้ามเดินหนี 
3.ต้องมีเซ็กส์ที่ดีเยี่ยม ...
 
วันรุ่งขึ้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น ปังๆ
เศรษฐีนีได้เปิดประตูออกไป
ภาพที่พบคือ ชายแขนขาด้วน
นั่งวีลแชร์ 
 
ชายผู้นั้นบอกว่า
ผมมาสมัครเป็นสามีคุณครับ ผมตรงตามคุณสมบัติทุกอย่าง
 
ผมจะไม่ตบตีคุณเพราะแขนผมด้วน ผมจะไม่เดินหนีคุณเวลาทะเลาะกัน
เพราะขาผมด้วน
และสุดท้ายเรื่องเซ็กส์
คุณคิดเองว่า
 
เมื่่อกี้ผมเอาอะไรเคาะประตู..

อ๋อเหรอคะ


บนเครื่องบินโดยสารลำหนึ่ง สาวเปรี้ยวแต่งตัวเหมือนคุณหญิงใส่เพชรใส่ทองมากมาย
สาวเรียบร้อยแต่งตัวเรียบๆ แล้วผู้หญิง 2 คนก็เริ่มคุยกัน
สาวเปรี้ยว : สวัสดีค่ะมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันเหรอคะ
สาวเรียบร้อย : ค่ะมาคนเดียว
สาวเปรี้ยว : เนี่ย เดี๊ยน ไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวหรอกคะ กะว่าจะมาดูรถ Porche ไปให้ลูกใช้ซัก 2 คัน
สาวเรียบร้อย : อ๋อเหรอคะ
สาวเปรี้ยว : ตอนสมัยอยู่ฝรั่งเศส ก็ขับจากัวร์ กับเฟอร์รารี่เจ้าคุณพ่อซื้อให้ค่ะ เงินสดนะคะ
สาวเรียบร้อย : อ๋อเหรอคะ
สาวเปรี้ยว : มานี่จะซื้อของขวัญให้ตัวเองซะหน่อยกะว่าจะซื้อเพชรกลับเมืองไทยซัก 50 กะรัต
สาวเรียบร้อย : อ๋อเหรอคะ
สาวเปรี้ยว : แล้วคุณน้องหล่ะคะ ชีวิตเป็นไงบ้างค่ะ
สาวเรียบร้อย : ก็ ไม่มีอะไรคะ ชีวิตเรียบง่าย สมัยเรียน พ่อให้ไปเรียนในวังได้แต่เย็บปักถักร้อย ร้อยพวงมาลัย ทำขนม ครูห้ามพูดคำหยาบ ครูบอกว่าถ้าจะด่าใคร อีตอแหล ให้พูดว่า อ๋อเหรอคะ

นิทานก่อนนอนเรื่องความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด

เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เป็นชาวสงขลา เรียนเก่งมาก ได้ทุนไปเรียนอเมริกาตั้งแต่เด็กจนจบด็อกเตอร์ จึงกลับมาเยี่ยมบ้าน
บ้านของเด็กหนุ่ม อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบสงขลา ต้องนั่งเรือแจวข้ามไป ใช้เวลาแจวประมาณหนึ่งชั่วโมง
“เรือที่ติดเครื่องยนต์ไม่มีเหรอ ลุง? ”
“ไม่มีหรอกหลาน ที่นี่มันบ้านนอก มันห่างไกลความเจริญมีแต่เรือแจว”
“โอ...ล้าสมัยมากเลยนะลุง โบราณมาก ที่อเมริกาเขาใช้เครื่องบินกันแล้วลุง ลุงยังมานั่งแจวเรืออยู่อีก ไปส่งผมฝั่งโน้น เอาเท่าไหร่ลุง?”
“80 บาท”
“OK…ไปเลยลุง”
ในขณะที่ลุงแจวเรือ หนุ่มนักเรียนนอกก็เล่าเรื่องความทันสมัย ความก้าวหน้า ความศิวิไลช์ ของอเมริกาให้ลุงฟัง
“เมืองไทย...เมื่อเทียบกับอเมริกาแล้วล้าสมัยมาก ไม่รู้คนไทยอยู่กันได้ยังไง? ทำไมไม่พัฒนา ทำไมไม่ทำตามเขาเลียนแบบเขาให้ทัน? ลุง...ลุงใช้คอมพิวเตอร์ ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นไหม? ”
“ลุงไม่รู้หรอก...ใช้ไม่เป็น”
“โอโฮ้...ลุงไม่รู้เรื่องนี้น่ะ ชีวิตลุงหายไปแล้ว 25%”
“แล้วลุงรู้ไหมว่า เศรษฐกิจของโลกตอนนี้เป็นยังไง? ”
“ลุงไม่รู้หรอก”
“ลุงไม่รู้เรื่องนี้นะ ชีวิตของลุงหายไป 50%”
“ลุง...ลุงรู้เรื่องนโยบายการค้าโลกไหมลุง? ”
“ลุง...ลุงรู้เรื่องดาวเทียมไหมลุง? ”
“ลุงไม่รู้หรอก...หลานเอ๊ย”
“ชีวิตของลุง ลุงรู้อยู่อย่างเดียวว่าจะทำยังไงถึงจะแจวเรือให้ถึงฝั่งโน้น ถ้าลุงไม่รู้เรื่องนี้ ชีวิตของลุงหายไปแล้ว 75%”
พอดีช่วงนั้นเกิดลมพายุพัดมาอย่างแรง คลื่นลูกใหญ่มาก ท้องฟ้ามืดครึ้ม
“นี่พ่อหนุ่มเรียนหนังสือมาเยอะจบดอกเตอร์จากต่างประเทศ ลุงอยากถามอะไรสักหน่อยได้ไหม? ”
“ได้...จะถามอะไรหรือลุง? ”
“เอ็งว่ายน้ำเป็นไหม? ”
“ไม่เป็นจ๊ะ...ลุง”
“ชีวิตของเอ็งกำลังจะหายไป 100% แล้วพ่อหน่ม“
อย่าคิดว่าตัวเราเหนือกว่าคนอื่นเพียงแค่มีการศึกษาสูง ยังมีประสบการณ์ชีวิตที่ต้องศึกษาอีกมาก แม้จะไม่มีใบประกาศมอบให้

บัญญัติ 15 ประการที่ภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามี

บัญญัติ 15 ประการที่ภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามี 

1. เมื่อสามีจะออกจากบ้าน ห้ามถามว่า "จะไปไหน" ให้ถามว่า
"มีเงินหรือเปล่า"
 
2. เมื่อสามีกลับมาถึงบ้าน ห้ามถามว่า "ไปไหนมา" ให้ถามว่า
"หิวหรือเปล่า"
 
3. เมื่อสามีว่ากล่าว ห้ามเถียงหรือทำหน้าบึ้งหน้างอ
ให้ยอมรับแต่โดยดีไม่ว่าถูกหรือผิด
 
4. เมื่อสามีเกิดความโกรธ โมโห ให้กลับออกไปก่อน
 
5. เมื่อสามีเมาเหล้ากลับมา
ห้ามโกรธหรือรังเกียจให้หาผ้าเย็นๆมาเช็คหน้าและหาอะไรให้ทาน
 
6. เมื่อสามีขอเงิน ห้ามถามว่า "จะเอาไปทำอะไร" ให้ถามว่า
"จะเอาเท่าไหร่"
 
7. เวลาเงินเดือนสามีออก ห้ามถามว่า "เงินออกเท่าไหร่" ให้ถามว่า
"พอใช้ไหม"
 
8. เมื่อสามีกำลังโมโห ให้ทำตัวเป็นกระสอบทรายเคลื่อนที่
 
9. เมื่อสามีเล่นการพนันเสีย ห้ามบ่นหรือแสดงอาการเสียใจ ให้บอกว่า
"ครั้งหน้าแก้ตัวใหม่"
 
10. เวลาเห็นสามีไปเที่ยวกับสาวอื่นนอกบ้าน ห้ามถามว่า "ไปกับใคร"
ให้ถามว่า "เที่ยวสนุกไหม"
 
11. เมื่อสามีพาเมียน้อยเข้าบ้าน
ห้ามโกรธหรือส่งเสียงดังโวยวายให้หาเครื่องดื่มมาคอยต้อนรับ
 
12. เมื่อสามีไม่กลับมานอนบ้าน ห้ามถามว่า "ไปนอนที่ไหน นอนกับใคร"
ให้ถามว่า "เมื่อคืนหนาวไหม"
 
13. เวลาสามีต้องการเสพสุขสำราญ ห้ามปฏิเสธ
ให้พร้อมตอบสนองทุกเวลาทุกท่าทุกกรณีให้เบิ้ลถ้าสามีต้องการ
 
14. เมื่อสามีกลับบ้านดึกหรือผิดเวลา ห้ามถามอะไรทั้งสิ้น
ให้จัดเตรียมที่นอนและหาอาหารให้ทาน
 
15. ให้ภรรยายึดถือและปฏิบัติตามบัญญัตินี้โดยเคร่งครัด
 
ข้าพเจ้า
 
นาง...................................เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของนาย
 
...................................... ขอให้สัญญาว่า
 
ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามยัญญัตินี้โดยเคร่งครัด โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ
หากข้าพเจ้ากระทำผิด หรือไม่ปฏิบัติตาม
ยินดีที่จะให้ลงโทษตามบทกำหนดที่มีอยุ่ทุกประการ
 
บทกำหนดโทษ เมื่อภรรยากระทำผิดบทบัญญัติ
ครั้งที่1 ว่ากล่าวตักเตือน
ครั้งที่2 ทำทัณฑ์บน
ครั้งที่3 ตัดเงินเดือน 15 เปอเซ็นต์
ครั้งที่4 ตัดเงินเดือน 1 เดือน
ครั้งที่5 ไม่กลับบ้าน 1 เดือน
ครั้งที่6 ให้ออกจากการเป็นภรรยา


โคราชชัดๆ


สองหนุ่มเที่ยวกันจนดึก...เมื่อเกือบสว่าง
สมศักดิ์ เห็นเพื่อนเมามากจึงขับรถพาเพื่อนมาส่ง
ไพโรจน์ ตื่นขึ้นก็โวยวาย : "เฮ้ย..! ไหนบอกจะพาข้าไปส่งบ้าน 
แล้วเอ็งพาข้ามาโคราชทำไมวะ?"
สมศักดิ์ : "โคราชที่ใหนล่ะ...บ้านเอ็ง"
ไพโรจน์ : "โคราชชัดๆ..นั่นไง..รูปปั้นย่าโมถือดาบยืนอยู่นั่น"
สมศักดิ์ มองแล้วถอนใจก่อนตอบว่า...
"นั่นน่ะไม่ใช่ย่าโม แต่เป็นเมียเอ็ง ถือมีดรอเอ็งอยู่ต่างหาก"

คำนวณค่าเบียร์


ภรรยา : พี่จ๋า..
พี่กินเบียร์ เดือนละ 5,000 บ.
ปีๆนึงก็ 60,000 บ.
พี่ลองคิดดูสิ ว่า 20 ปี
ก็เป็นเงิน 1,200,000 บ. ใช่มั้ย?
สามี : อืม.. ใช่จ้ะ
ภรรยา : ถ้าเอาเงินก้อนนี้ ไปฝากประจำ ดอกเบี้ยทบต้น
ป่านนี้.. พี่ก็คงมี ปอร์เช่ ขับแล้ว
สามี : อืม.. แล้วเธอล่ะ กินเบียร์รึเปล่า?
ภรรยา : ก็เปล่าไง!!
สามี : อืม.. แล้วไหนล่ะ?
"ปอร์เช่" ของเธอ

หลักประกัน


คุณวิไลกลัวหมอฟันเป็นที่สุด  วันหนึ่งทนความเจ็บปวดจากโรคฟันผุไม่ไหว จึงต้องไปหาหมอฟันที่คลีนิคใกล้ๆ บ้าน 
 
หมอฟัน : อ้าปากกว้างๆครับ (หมอ บอก) 
 
ขณะที่กำลังก้มไปใกล้ปากคุณวิไล ทันใดนั้น หมอฟันก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เพราะรู้สึกว่ามีอะไรมากำที่เป้ากางเกง ซึ่งเป็นสิ่งที่หวงแหนที่สุด จึงก้มมองแล้วพูดว่า... 
 
หมอฟัน : คุณครับ...คุณกำลังกำเป้ากางเกงผมอยู่นะ 
 
คุณวิไล : (ยิ้มหวานและพูดว่า) ก็ใช่นะสิคะ เพื่อเป็นหลักประกันว่า ..." เราจะไม่สร้างความเจ็บปวดให้แก่กันและกัน " ไงคะคุณหมอ

แขกชายชาดิสต์

สาวขายบริการ ได้รับแขกชายชาดิสต์ ชอบเตะคู่นอน
ชายซาดิสต์ "พี่ไม่ขอมีอะไรกับน้อง"
สาวบริการ "อ้าวทำไมหละค่ะพี่ แล้วพี่จะทำอะไรหนูดี"
ชายซาดิสต์ "พี่ขอเตะน้องอย่างเดี่ยว"
สาวบริการนึกในใจก็ดีเหมือนกัน " แต่หนูขอค่าเจ็บตัว 5000 นะค่ะ"
ชายซาดิสต์ "ได้ พี่ให้ 7000 เลย เอา 7000 เอาไปก่อน"
สาวขายบริการเก็บเงินเรียบร้อย "มาค่ะหนูพร้อมแล้ว
แต่....???  พี่จะเตะหนูนานเท่าไรค่ะ?"
ชายซาดิสต์ "ก็จนกว่าหนูจะคืนเงิน7000 "......

สมชายรีดผ้า


สมชายไปหาหมอที่โรงพยาบาลด้วยสภาพใบหูทั้งสองข้างบวมแดง แถมมีรอยไหม้อย่างน่ากลัว คุณหมอเข้าไปถามว่าโดนอะไรมา
สมชายเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความโมโห

"ก็ผมกำลังรีดผ้าอยู่เพลิน ๆ จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมเลยลืม ยกเตารีดขึ้นแนบหู"
"ตายแล้ว!" คุณหมออุทานด้วยความสยดสยอง แล้วหูอีกข้างไปโดนอะไรมาคะ"
"ก็ไอ้บ้าน่ะสิครับ". สมชายหัวฟัดหัวเหวี่ยง
"มันดันโทรกลับมาอีกรอบ"

ทุบกระท้อน

ณ โรงเรียนในชนบทห่างไกลความเจริญ

มีคุณครูท่านหนึ่งทุกฯวัน จะใช้ให้เด็กหญิงคำหล้าทุบกระท้อนให้ทานทุกวัน 
แต่แล้วมาวันหนึ่ง

คุณครู :เด็กหญิงคำหล้าวันนี้ช่วยทุบกระท้อนให้ครูสัก 3 ลูกนะ
ด.ญ คำหล้า : ครูค่ะวันนี้ให้คนอื่นทำให้ได้ไหมค่ะ
คุณครู : ทำไมล่ะ! ครูจะให้เธอนั้นแหละทำ เธอทุบได้หวานอร่อยดีครูชอบ
ด.ญ.คำหล้า : เอ้อ! คือว่าวันนี้หนู คงทำให้ไม่ได้จริงๆ เพราะแก้วบาดส้นเท้าหนูค่ะ
คุณครู : !!!!!!????? 

ค่าโทรศัพท์แพง


สามี : นี่ทุกคน บิลค่าโทรศัพท์ที่สูงขึ้นอย่างน่าใจหาย ที่สำคัญผมไม่เคยใช้โทรศัพท์ที่บ้านเลย ใช้แต่โทรศัพท์ของที่สำนักงานทั้งนั้น

ภรรยา : ฉันก็เหมือนคุณนั่นแหละค่ะ ใช้โทรศัพท์ของที่ทำงาน นานๆ ครั้งจึงจะได้ใช้โทรศัพท์บ้าน

ลูกสาว : ใช่ค่ะพ่อ หนูก็โทรศัพท์มือถือของที่บริษัท โทรศัพท์บ้านไม่เคยแตะเลยค่ะพ่อ                         

สาวใช้พม่า :  นู๋ก็ใช้โทรศัพท์ของที่ทำงานเหมือนกัน  ค๊า

เมียลุงเหลิม


เมียลุงเหลิมเป็นคนปากจัดแต่ใจดีและพูดอะไรตรงๆ
คืนหนึ่งตอนแกตั้งท้องได้ 8 เดือน ก็รู้สึกเห็นใจสามี จึงให้เงินลุงเหลิม 200 บาท ให้ไปเที่ยวซ่อง 
ลุงเหลิมก็ว่าง่าย ออกจากบ้านไปแต่หายไปพักหนึ่งก็กลับมา และเอาเงินมาคืนเมีย100 บาท 
 
เมีย: ซ่องอยู่ตั้งไกลทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ 
 
ลุงเหลิม: ผัวอีตุ่มข้างบ้านมันไม่อยู่ ก็เลยนอนกับอีตุ่ม มันเอาแค่ร้อยเดียว
 
เมีย: (โกรธ)อีนี่มันเขี้ยวมาก เดี๋ยวกูจะเอาเรื่องมัน ทีผัวมันกูไม่เคยคิดสักบาท !! 
 
ว๊ายยยยย!!!!!!!! 5555555

การฝึกทหารใหม่

ในการฝึกทหารใหม่ ครูฝึกต้องคัดแยกทหารให้เป็นหมวดเป็นหมู่เพื่อให้ง่ายกับการปกครอง

ครูฝึก:ทหารใครขี้ยาไปตั้งแถวทางซ้ายมือครู...
ใครขี้เมาไปตั้งทางขวา...

ทหารปฎิบัติตาม  แต่เหลืออยู่คนหนึ่ง ยืนเก้ๆกังๆ

ครูฝึก:อ้าว แล้วเอ็งล่ะ
ทหาร:ผมขี้เอา ครับ
ครูฝึก:ไอ้ห่...มึงรีบมาเข้าแถวต่อหลังกูนี่

ปล้นธนาคารกลางคืน

ชายสองคนบุกเข้าไปในธนาคารในเวลากลางคืน
และเปิดตู้เซฟ พบว่ามีโยเกิร์ต แต่ไม่มีเงิน พวกเขา
ชิมโยเกิร์ต   รู้สึกว่ามันเสีย !
เขาเปิดตู้เซฟใบต่อไป มีโยเกิร์ตอีก แต่รสชาติดีกว่า
ที่ชิมก่อนหน้า แต่ก็ - ไม่มีเงิน
พวกเขาใช้เวลาเปิดเซฟอื่นๆต่อก็พบแต่โยเกิร์ตอีก 
"จอห์นออกไปด้านนอกดูว่ามันเป็นธนาคารแน่นะ" 
หนึ่งในนั้นพูดกับเพื่อนไม่กี่นาทีจอห์นกลับมา
"มันเป็นธนาคารแน่ "
"แล้วมีป้ายบอกอะไรเพิ่มมั้ย?"
"The Sperm Bank of Ohio"

สามสิบวิธีขึ้นรถเมล์ฟรี แบบฮาๆๆๆ

สามสิบวิธีขึ้นรถเมล์ฟรี แบบฮาๆๆๆ
30 วิธีสำหรับคนที่ขึ้นรถเมล์.... แล้วไม่อยากจ่ายตังค์ 
1. เลือกคนที่มนุษย์แน่นเอี๊ยดเหมือนปลากระป๋อง 
2. ถ้ากระเป๋าอยู่ประตูหน้าให้ขึ้นประตูหลัง พอกระเป๋าเดินมาถึงให้รีบลง แล้ววิ่งไปขึ้นประตูหน้า เล่นไล่จับกัน 
3. ในกรณีกระเป๋ารถไม่เห็นให้แกล้งหลับ 
4. ถ้ากระเป๋ารถเห็นให้หลับจริงๆ (อย่าลืมกรน ครอกฟี้ยยย....ด้วยเพื่อความสมจริง) 
5. หรือไม่ก็แกล้งหลับตั้งแต่ป้ายรถเมล์ จากนั้นพอรถจอด ก็ละเมอย้ายร่างขึ้นรถไป (วิธีนี้เนียนมากๆ ขอแนะนำ) 
6. ใส่ชุดคอสเพลย์สไปเดอร์แมนโดดเกาะหลังคารถ อย่าให้คนในรถเห็น 
7. ใส่ชุดนักเรียนอนุบาลเอี้ยมแดง (สำหรับผู้ที่หน้าแก่มาก ควรเพิ่มออปชั่นเพื่อความน่าเชื่อถือ กระติกน้ำ กล่องข้าว หุ่นยนต์กิงก้าแมน ฯลฯ) 
8. ปริ๊นตั๋วเถื่อน 
9. อุ้ย.. โทษ ข้อ 8 ท่าจะแรงไป เปลี่ยนเป็นเอาเศษกระดาษเล็กๆ มานั่งบี้จะดีกว่า 
10. ใช้สกิลล่องหน 
11. แกล้งกระเป๋าตังค์หาย ทำหน้าตาน่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นขอยืมเงินเป๋ารถเมล์ 
12. ตัดขาทิ้งไปข้างนึงก่อนขึ้นรถ 
13. แต่งชุดอีทีขึ้นไปบนรถ จากนั้นขอเจรจากับกระเป๋ารถในฐานะทูตสันติภาพแห่งอวกาศ 
14. แกล้งเอาแขนซุกในเสื้อ ปลอมเป็นคนแขนด้วน แล้วบอกเป๋ารถด้วยเสียงหวานซึ้งว่า ?ตังค์อยู่ในกุงเกงในอ่ะ หยิบให้หน่อยจิ ตะเอง? 
15. ใส่ชุดกระเป๋ารถขึ้นไป แล้วทำท่าตกใจเมื่อเจอกระเป๋ารถ ?อ๊ะ..! แกเป็นใคร? 
16. กอดคอกระเป๋ารถด้วยท่าทีสนิทสนมสุดขีด ก่อนทักทายด้วยเสียงอันดังก้อง ?เฮ้ย เป็นไงบ้างเพื่อนร่วมโลก ไม่ได้เจอกันนาน... เป็นกระเป๋ารถเหรอ พยายามเข้านะ เรื่องตังค์ไม่ต้องห่วง เราจ่ายแน่ แต่ไม่ใช่วันนี้? 
17. พูดภาษาอูกันด้ากับกระเป๋ารถเมล์ 
18. เดินเข้าไปผลักคนขับรถออกจากที่นั่ง ?มา..!! ตูขับเอง? 
19. ระหว่างก้าวขึ้นให้แกล้งคุยโทรศัพท์ เสียงดังให้ได้ยินทั้งรถ ?เฮ้ย ไอ้ถนอม!! กระเป๋ารถที่เก็บตังค์เราวันนั้น มันออกจากห้องไอซียูรึยังวะ หา... อะไรนะ ยังไม่ออกอีกเหรอ ไอ้เราก็ว่าเบามือแล้วนะ? 
20. ร้องไห้ แล้วรำพึงรำพันเสียงดัง ?ฮือ.... ทำไม... ทำไมแค่นี้ต้องเก็บเงินกันด้วย อำมหิต ชั้นไปทำอะไรให้แก? 
21. ถามทั้งกระเป๋าและคนขับว่า ?เฮ้ย นี่เก็บเงินข้าเหรอ..! นี่แกไม่รู้รึไงว่าชั้นเป็นลูกใคร!!!? (วิธีนี้ออกแนวความจำเสื่อม ฟังไม่ขึ้น ไม่ขอแนะนำให้ใช้) 
22. (หมายเหตุจากข้อ 21 : ?โห... ทำยังกะวิธีในข้ออื่นมันฟังขึ้นงั้นแหละ ? ) 
23. แกล้งเสมือนว่าขึ้นรถผิดคัน แล้วขอลงป้ายหน้า ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ (โอ... วิธีนี้ค่อยยังชั่วหน่อย) เพื่อความเนียนควรถามทางกระเป๋ารถด้วย ?อืม คันนี้ผ่านลอสแองเจลลิสมั้ยครับ อ๋อ ไม่ผ่านเหรอ งั้นขอลงป้ายหน้าละกัน??!!?? 
24. บอกกระเป๋ารถเสียงดังว่า ?เก็บอะไร๊!!! ตูจ่ายแล้ววว? ทั้งๆ ที่ทุกคนเห็นแกขึ้นรถมาเมื่อกี้ก็ตาม 
25. ถามกระเป๋ารถว่า ?คุณเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยที่อยู่ข้างหลังผมมั้ย..?? เห็นมั้ย ไม่เห็นเหรอ เธอบอกผมว่า อย่าไปจ่ายย.... อย่าไปจ่ายมันน.....? 
26. ควักแบ๊งค์พันให้ ยิ้ม แล้วพูดเสียงเขินๆ ?ป๋มไม่มีเศษเยยอ่ะคับพี่ งุงิ งุงิ? 
27. พอกระเป๋าถึงตัวให้ตกใจสุดขีด จากนั้นแกล้งเป็นลม (ถ้ามีความสามารถจะกระตุกลมบ้าหมูเพิ่มเข้าไปก็ได้) 
28. แกล้งหยิบปืนขึ้นมา แล้วพูดว่า ?อุ๊ย หยิบมาผิด นึกว่ากระเป๋าสตางค์ โอ ไม่นะ งั้นเป๋าตังค์ก็อยู่บ้านอ่ะดิ ตอนนี้จ่ายด้วยลูกปืนไปก่อนได้มั้ย? 
29. มองหน้ากระเป๋ารถด้วยสีหน้าที่กวนอวัยวะที่ใช้สวมรองเท้ามากที่สุด เอียงคอ ยกขาเล็กน้อย ปากเบี้ยวพอประมาณ ยักไหล่พอเป็นจังหวะ แล้วเอ่ยเสียงเพราะๆ ว่า ?ตูไม่ให้!!!!? (จากนั้นก็จะมีเรื่องฟาดปากกัน ไม่ต้องจ่ายค่ารถแน่นอน ไปจ่ายค่าทำแผลแทน) 
30. เอ่อ จ่ายๆ ไปเหอะ ทำเป็นเรื่องมากไปได้ ทีวีซีดีการ์ตูนแผ่นละเกือบร้อยแกยังจ่ายกันได้เลย ใช่มะ 
ป.ล ลองทำดู ถ้าได้ผลประการใดก็บอกเราด้วยนะอิอ 

นิทานก่อนนอนเรื่องแม่มดตัวแสบ

นิทานก่อนนอนเรื่องแม่มดตัวแสบ

กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว..... อาเธอร์ถูกจับและจะประหารชีวิต แต่กษัตริย์เสนอให้เขาเป็นอิสระ ถ้าหากเขาสามารถตอบ ปัญหาแสนยากข้อหนึ่ง ได้ถูกต้อง

อาเธอร์มีเวลาหาคำตอบ 1 ปีเต็ม ถ้าเขาตอบไม่ได้ เขาก็จะถูกประหาร 'คำถามนั้นคือ .... สิ่งที่ผู้หญิงต้องการจริงๆ คืออะไร ?

ปัญหาดังกล่าวช่างยากเย็นจนแม้นักปราชญ์ที่ฉลาดก็ยังงุนงง เขากลับไปยังอาณาจักรของเขาและ เริ่มหาคำตอบจากทุกผู้คน แต่ไม่มีใครให้คำตอบที่น่าพอใจได้ คนส่วนมากจะแนะนำให้เขาไปปรึกษาเรื่องนี้กับยายแม่มดแก่ ซึ่งน่าจะเป็นผู้เดียวที่จะรู้คำตอบ แต่ราคาค่าปรึกษาคงจะแสนแพง

แล้ววันสิ้นปีก็มาถึง อาเธอร์ไม่มีทางเลือกอื่น แม่มดตกลงจะให้คำตอบแต่อาเธอร์ต้องยอมรับเงื่อนไขแลกเปลี่ยนก่อน นังแม่มดต้องการแต่งงานกับกาเวน อัศวินผู้ทรงเกียรติสูงสุดของ เหล่าอัศวินโต๊ะกลม และเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของอาเธอร์ อาเธอร์หนุ่มถึงกับสยองขวัญ เพราะยายแก่หลังโกงเหม็นก็เหม็น มีฟันเหลือซี่เดียว ตัวก็เหม็นเหมือนถังส้วม ชอบทำเสียงประหลาดน่ารังเกียจ เขาปฏิเสธที่จะให้เพื่อนรักแต่งงานกับหล่อน

ฝ่ายกาเวนพอได้รับรู้ถึงข้อเสนอนั้น เขายอมแต่งงาน เพื่อชีวิตของอาเธอร์ และการดำรงอยู่ของอัศวินโต๊ะกลม และยายแม่มดก็ให้คำตอบต่อคำถามของอาเธอร์ 'สิ่งที่ผู้หญิงต้องการจริงๆ ก็คือการได้เป็นตัวของตัวเอง'

ทุกคนทราบได้ทันทีว่าแม่มดได้กล่าวอมตะวาจาอันยิ่งใหญ่ และอาเธอร์ก็รอดพ้นจากการประหารแน่นอน และก็เป็นเช่นนั้นจริง แต่ทว่า........งานแต่งงานของกาเวนกับนังแม่มดช่างเหลือรับจริงๆ กาเวนสง่าผ่าเผยเช่นปกติทั้งสุภาพอ่อนน้อม ส่วนฝ่ายนังแม่มดเฒ่านั้นออกลายนิสัยเลวสุดเดช ทั้งกินมูมมามด้วยสองมือ ทั้งเรอ ทั้งตด ทุกผู้คนต่างรู้สึกอึดอัด และ แล้วยามค่ำของวันส่งตัวก็มาถึง กาเวนได้ปลอบตนเองพร้อมรับคืนสยองเขาก้าวเขาสู่ห้องนอนวิวาห์ ช่างไม่เชื่อสายตาตนเอง!!!! หญิงสาวแสนสวยที่สุดที่ เคยพบพานนอนรออยู่เบื้องหน้า กาเวนงุนงง ???? สาวแสนสวยเฉลยว่า เพราะกาเวนช่างแสนดีกับหล่อน (เมื่อยามเป็นแม่มด) ดังนั้นครึ่งหนึ่งของวัน เธอจะอยู่ในสภาพพิกลพิการน่า รังเกียจส่วนอีกครึ่งหนี่งของวัน เธอจะอยู่ในร่างแสนสวยนี้

กลางวันเขาอยากให้เธอเป็นแบบไหน กลางคืนอยากให้เป็นแบบไหน? เป็นคำถามที่ช่างโหดร้าย!!! กาเวนเริ่มคิดไตร่ตรอง หญิงสาวสวยยามกลางวันเพื่ออวดต่อเพื่อนฝูง แต่กลางคืนเมื่ออยู่สองต่อสอง เป็นยายแม่มด? หรือว่าเขาควรจะเลือกยายแม่มดตอนกลางวัน แล้วได้สาวสวยเพื่อเริงระบำยามค่ำคืนดี??

เป็นคุณหล่ะ คุณจะเลือกอย่างไร ??? (กรุณาหยุดคิดสักนิดเมื่อตัดสินใจได้แล้ว ค่อย scroll ลงไปอ่านนะ )


เอาละ.. เมื่อได้คำตอบของคุณแล้ว อ่านคำตอบของกาเวนที่อยู่ ข้างล่างนี้

กาเวนตอบว่า 'เขาขอมอบให้เธอเป็นผู้ติดสินใจเลือกเอง' เมื่อเธอได้ยินดังนั้น เธอ จึงประกาศก้องว่าเธอจะสวยตลอดเวลา เพราะเขาได้ให้ความเคารพและให้เธอเป็นตัวของตัวเอง

 นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า...

1. ผู้หญิงไม่ว่าจะสวยหรือจะน่าเกลียด ลึกๆ ข้างในเธอก็คือ แม่มด
2. ผู้หญิงจะกลายร่างเป็นแม่มด หรือเป็นสาวแสนสวยเมื่อไหร่ นั้นขึ้นอยู่กับ ความประพฤติของผู้ชาย

วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กล้าโกนผมปะ

ช : นี่ๆ เธอๆ
ญ : ค่ะว่ายังไงหรอ ??
ช : กล้าโกนผมปะ
ญ : ทำไมหรอ ??
ช : ถามครับว่ากล้าไหม
... ญ : ไม่กล้าอ่ะค่ะ
ช : รักผมอะดิ
ญ : O_O !!

วิธีนั่งแท็กซี่ฟรี

A : กูมีวิธีนั่งแท็กซี่ฟรี
B : ทำยังไงวะ ??
A : กูแค่บอกให้คนขับ แวะเซเว่นหน่อย จะซื้อไฟฉาย เอามาส่องหา "สร้อยทอง" ที่ทำหล่น
B : แล้วยังไง ??
A : ก็พอกูลงปุ๊บบ แท็กซี่ก็หนีไปเลยยย ฮ่าๆ
B : ต้องลองไปทำบ้าง !!!

มีบางข้อที่ใช่และไม่ใช่

มีบางข้อที่ใช่และไม่ใช่
1. เมื่อยางมะตอยติดรถคุณ
แบบถูกๆลองดูน้ำมันก๊าดครับ  ใช้ผ้านุ่มๆชุบ ลูบเบาๆ พอออกหมด แล้วใช้ แชมพูล้างรถ ล้างซ้ำทันที อย่าใช้น้ำมันเบนซินเป็นอันขาดนะครับหรือแบบแพงหน่อยก็ดูน้ำที่ใช้ขัดยางมะตอยโดยเฉพาะเช่น  คาร์โก้
หรือ cana , sonax   เป็นต้น

2. การขจัดกลิ่นของเบาะหนัง
เบาะหนังในรถของคุณใช้ไปนาน ๆ อาจมีกลิ่นไม่ดีออกมาให้ผสมโซดาไบคาร์บอเนตหนึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำ 500 มล. มาทำความสะอาดให้ทั่วจะช่วยลดกลิ่นเบาะให้ทุเลาลง

3. การป้องกันขนสุนัขร่วงในรถ
  หากคุณมีความจำเป็นต้องพาสุนัขไปกับคุณด้วย การใช้เสื้อผ้าสำหรับสุนัขที่มีขายตามท้องตลาด จะแก้การใช้เสื้อผ้าสำหรับสุนัขที่มีขายตามท้องตลาดจะแก้ปัญหาไม่ให้ขนสุนัขร่วงลงรถชั่วขณะ  แม้มันจะรำคาญบ้างก็อย่าไปยอมถอดให้มัน

4. ขจัดกลิ่นรถใหม่
    รถใหม่ป้ายแดงคุณอาจจะรำคาญกลิ่นพลาสติก ที่เหม็นรุนแรงแก้ปัญหาได้โดยใช้น้ำส้มสายชู ผสมน้ำมาชโลมให้ทั่วภายในรถแล้วเช็ดให้สะอาด แล้วหาซื้อน้ำหอมปรับอากาศมาใส่ซะ


5. การขจัดกลิ่นเหม็นอับในรถยนต์
   ขจัดให้หายได้ โดยใส่เบ็คกิ้งโซดาลงในที่เขี่ยบุหรี่ของรถ 1 ช้อนโต๊ะ หลังจากทำความสะอาดแล้ว หรืออาจใช้เบ็คกิ้งโซดาเช็ดถูเบาะ พรม ให้สะอาดได้ด้วย เบ็คกิ้งโซดาจะช่วยขจัดหลิ่นไม่ดีออกได้หมด


6.  หากโรงรถมีกลิ่นอับให้ใช้ถุงผ้าใส่ถ่านไม้ผูกให้แน่น นำไปแขวนไว้จะช่วยขจัดกลิ่นเหม็นได้อย่างดี

7. วิธีทำความสะอาดพื้นโรงรถที่เปื้อนน้ำมันเครื่องให้โรยด้วยทราย ทิ้งไว้ 1 คืน กวาด ทรายออกไป  คราบน้ำมันก็จะหลุดออกไปด้วยกับทรายนั่นเอง

8. วิธีทำความสะอาดพรมที่เปื้อนคราบน้ำมัน  ให้เทเบกกิ้งโซดาลงตรงบริเวณที่ เปื้อนคราบน้ำมัน  ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดตรง รอยเปื้อนน้ำมันนั้น คราบก็จะจางหายไป  

9. การลบรอยขีดข่วนบนกระจกหน้ารถ
   ใช้บราสโซขัดทองเหลืองหรือยาสีฟันทาให้ทั่ว รอยขีดข่วน แล้วใช้ผ้าแห้งถูออก อาจต้องทำหลายครั้งจะดูดีขึ้น
จากนั้นก็ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดทำความสะอาดเป็นครั้งสุดท้ายก็จะได้กระจกหน้ารถที่ดูใสแวววาว

10. คราบสติ๊กเกอร์บนกระจก
    รถบ้านเราชอบตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์ตามกระจกหลังหากต้องการเลาะออกให้เป็นสภาพดังเดิม
ใช้มีดโกนหนวดบางมารีดเลาะออก แล้วใช้สำลีชุบน้ำยาทาเล็บมาล้างคราบสติ๊กเกอร์ ครู่เดียวก็จะละลายออกหมด
จากนั้นจึงใช้เมทิลแอลกอฮอล์เช็ดกระจกอีกทีแค่นี้ก็เรียบร้อย

11.ยางมะตอยติดล้อรถ
 หากคุณเผลอไผลหรือหลบเลี่ยงไม่ได้ ต้องขับรถเข้าไปในบริเวณที่มีการซ่อมถนนอยู่และมีการราดยางมะตอยใหม่ ๆ ยางมะตอยหรือน้ำมันดิบที่เปรอะเปื้อนล้อรถและตัวถัง ให้ใช้เบ็คกิ้งโซดาละลายรอยเปื้อนต่าง ๆ ก็จะออกได้


12. ขจัดคราบน้ำมันบนตัวถังรถ
    ใช้ฟองน้ำจุ่มลงในน้ำผสมเบ็คกิ้งโซดา ทาตรงบริเวณที่มีคราบน้ำมันจับ คราบน้ำมันจะหลุดออกอย่างง่ายดาย
ไม่กระทบกระเทือนสีรถด้วย

13. กำจัดแมลงที่ติดฝาครอบรถยนต์และตะแกรงหน้ารถ
    ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้สเปรย์พ่นยุงพ่นที่ฝาครอบรถและตะแกรงหน้ารถตัวแมลงเล็ก ๆ ก็จะหลุดออกง่าย
และไม่ทำลายความเป็นเงาของสีรถ

14.  รอยเปื้อนกระจกหน้ารถจากตัวแมลงหรือน้ำที่กระเด็นใส่
     แก้ไขด้วยใช้ฟองน้ำชุปเบ็คกิ้งโซดา แล้วเอาฟองน้ำสะอาดเช็ดกระจกจนแห้ง ผงเบ็คกิ้งโซดาจะไม่ทำให้กระจกเป็นรอยใช้ทำความสะอาดไฟหน้าไฟท้ายและกันชนได้

15. ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดกระจก แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อโรค และยังใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เป็นแก้วหรือกระจกได้ กระจกรถของคุณที่มีคราบสกปรก จะถูกขจัดได้อย่างง่ายดายด้วยแอลกอฮอล์

16. เครื่องเป่าผมก็มีประโยชน์
   รถที่สตาร์ทไม่ติดอันเนื่องมาจากปัญหาความชื้นลองใช้เครื่องเป่าผมเป่าความร้อนบริเวณเครื่องยนต์
ที่คิดว่ามีความชื้นจนกว่าจะแห้ง แล้วลองสตาร์ทใหม่ดูอีกครั้ง

17. ทำความสะอาดคราบซิลิโคน ที่ไม่ทำลายสีรถหรือฟิลม์เคลือบสีรถ
   ลองใช้  น้ำมัน มะพร้าว หรือ มะกอก หรือ  ทาทิ้งไว้สักพักครับ แล้วใช้ผ้า นุ่มๆ เช็คทิ้ง  ทำหลายครั้งๆ จนคราบซีลิโคน หลุดออกหมด  แล้วค่อยล้าง น้ำมันที่ ผิวสีรถ  ด้วยโฟม หรือ แชมพู ล้างรถ ทีหลัง  กรณี นี้ สามารถ นำไปใช้ ล้างคราบ กาว สองหน้าที่ ติดกระจก หน้ารถ เวลาลอก แผ่นกาว ปิดใบ พรบ.บุคคล หรือ ใบเสียภาษี หน้ารถได้ ครับ  ลองดูนะครับ  น้ำมันพวกนี้ ไม่มีฤทธิ์ เป็น กรด หรือ ด่างทำลาย สี

18.   ถ้าพรมเปียกน้ำเพียงเล็กน้อย ให้นำผ้าหรือกระดาษทิชชูมาซับน้ำออกนำรถมาจอดไว้กลางแดด โดยเปิดกระจกทิ้งไว้ ความร้อนจะช่วยทำให้พรมแห้งแต่ในกรณีที่น้ำเปียกพรมมาก ควรถอดเบาะนั่งออกก่อน หลังจากนั้นจึงถอดพรมออกมาซักแล้วผึ่งแดดจัดๆ เหมือนการตากผ้าทั่วไปเพียงแต่อาจต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 2 วัน หรือจนกว่าพรมจะแห้งสนิทจึงนำเข้าที่ตามเดิม ซึ่งหากท่านไม่สามารถถอดอุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วยตนเอง วิธีที่ดีที่สุด คือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างที่ชำนาญถอดพรมออกซัก

19.พรมเปื้อนโคลนหรืออาเจียนการทำความสะอาดที่ถูกวิธี ควรใช้อุปกรณ์ตักเซาะเอาเศษความสกปรกออก หลังจากนั้นใช้ผ้าแห้งที่สะอาด หรือกระดาษซับความเปียกชื้นออกไปจนหมาด ควรเช็ดจากวงนอกเข้าไปกลางจุดที่เปื้อน เพื่อป้องกันความสกปรกขยายวงกว้างออกไป ถ้าความสกปรกยังไม่หมดไปใข้แชมพูซักพรมฉีดบริเวณนั้น หากภายในรถของท่านยังมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ติดอยู่ ควรนำรถไปจอดกลางแดดที่ร้อนจัดปิดกระจกทุกบานไว้ประมาณ 2-5 ชั่วโม จึงค่อยเปิดประตูรถให้ลมพัดผ่าน ความร้อนจากแสงแดดจะช่วยทำลายกลิ่นให้จางลงหรือหมดไป หากยังไม่หายสนิทก็ทำซ้ำเช่นนี้อีกจนกว่ากลิ่นจะจางลงไป

20. หมากฝรั่งติดพรม
   การขูดเซาะออกขณะที่หมากฝรั่งอ่อนตัวทำได้ยาก เนื่องจากหมากฝรั่งจะเหนียวทำให้เกิดความเสียหายกับเนื้อพรมได้ และถ้าไม่ระวังหมากฝรั่งอาจจะเลอะเทอะกระจายเพิ่มขึ้น วิธีที่พึงปฏิบัติคือใช้ก้อนน้ำแข็งมาประคบที่หมากฝรั่งให้เย็นจนแข็งตัว จากนั้นก็ใช้ช้อนขูดออก จะทำให้หมากฝรั่งขูดออกได้ง่ายขึ้น

21.พรมเปื้อนสารเคมี
    ในกรณีที่พรมเปื้อนสารเคมีที่เกิดจากน้ำยาทาเล็บ น้ำมันเครื่องหรือไขจารบี การซักด้วยน้ำเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่สามารถล้างคราบของสารเคมีออกได้หมด เพราะจะมีความมันติดหลงเหลืออยู่ ควรใช้แขมพูสำหรับซักพรม โดยเฉพาะมาทำการล้างออกทันทีก่อนที่สารเคมีเหล่านี้จะจับนานซึ่งอาจจะทำให้ล้างออกยาก

22.  เมื่อจะล้างล้อแม็กซ์และยาง ควรรอให้ยางมีอุณหภูมิเย็นลงเป็นปกติเสียก่อน เพราะความร้อนจะทำให้น้ำและน้ำยาหรือสบู่อ่อนระเหยแห้งไวเป็นสาเหตุ ให้เกิดรอยด่างได้ง่าย  

23.  หากจะขัดทำความสะอาดล้อแม็กและยาง ด้วยน้ำยาหรือสบู่อ่อน ให้เลือกใช้ แต่แปรงชนิดขนอ่อน เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยตามมา และควรเคลือบเงา ด้วยน้ำยาด้วย และไม่ควรใช้น้ำร้อนทำความสะอาดล้อแม็กเด็ดขาด มิเช่นนั้นสารที่เคลือบผิวล้อแม็ก ไว้จะถูกทำลาย

24. น้ำมันเบรกจะสามารถทำปฏิกิริยากับสีรถได้
  ในการเติมน้ำมันเบรกพยายามอย่าทำน้ำมันเบรกหกหรือหยดลงบริเวณตัวถัง หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้รีบเช็ดให้แห้งทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเพราะจะทำให้สีรถถลอกได้และห้ามวางขวดน้ำมันเบรกบนฝากระโปรงรถเด็ดขาด

25. การทำความสะอาดแบตเตอรี่  
  ถ้าเกิดขึ้เกลือขึ้นในขั้วแบตเตอรี่ทั้ง 2 ข้าง ให้ถอดขั้วทั้ง 2 ออกมา ใช้แปรงลวดขัดบริเวณที่เกิดขี้เกลือบริเวณทั้งสองข้างถ้าเป็นรอยสกปรกธรรมดาใช้ผ้าเช็ดก็ได้  เมื่อทำความสะอาดเสร็จให้ใช้จาระบีทาที่ขั้วแบตเตอรี่และขั้วทองแดงทั้งสองขั้ว    ให้ใส่ขั้วกลับลงไปที่เดิม โดยให้สายขั้วบวกใส่ในตำแหน่งขั้วบวก สายขั้วลบใส่ในตำแหน่งขั้วลบ

26. ควรปิดคอมเพรสเซอร์แอร์ ก่อนดับเครื่อง ช่วยยืดอายุตู้แอร์ ระบบทำความเย็นทั้งภายในรถและอาคาร อาศัยหลักการถ่ายเทความเย็น และระบายความร้อน ซึ่งตู้แอร์ หรือคอยล์เย็น จะมีสารทำความเย็นบรรจุอยู่ภายใน โดยมีพัดลมทำหน้าที่เป่าลม การปิดพัดลมหลังดับเครื่อง ความเย็นยังคงอยู่ภายในระบบ ตู้แอร์จึงชื้น และกลายเป็นที่สะสมฝุ่นละออง ซึ่งจะทำให้ลมผ่านได้ไม่สะดวก เกิดการอุดตัน และตู้รั่ว
การปิดคอมเพรสเซอร์ หรือปิดสวิทช์ AC ก่อนดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 5 -10 นาที จะช่วยไล่ความชื้นในตู้แอร์ ไม่เป็นที่สะสมฝุ่น นอกจากจะช่วยยืดอายุตู้แอร์ ยังช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ที่มักเกิดพร้อมๆ กับความชื้นอีกด้วย

27. ยางรถยนต์เก่าก็มีประโยชน์   ยางรถยนต์เก่าที่ไม่ใช้แล้ว นำไปผูกแขวนไว้ในโรงรถ ตรงที่หัวรถจะแล่นเข้าจอด ยางจะเป็นกันชนเมื่อเวลาเราถอยรถเข้าเก็บในที่จอดรถ

28.  กรวยเติมน้ำมันฉุกเฉิน   น้ำมันแห้งสนิทกลางทาง ซื้อน้ำมันใส่แกลลอนมาแต่ดันลืมติดกรวยมาด้วย ไม่ยากเลย   เพียงหาถ้วยใส่น้ำอัดลมพลาสติค ผ่าแล้วม้วนเป็นรูปกรวยมาเป็นที่เติม หรือใช้กระดาษทบกันหลาย ๆ ชั้น มาพับเป็นรูปกรวยก็ได้พอจะแก้ขัดไปครั้งหนึ่ง

29. ฟิวส์ซองบุหรี่   ระบบไฟฟ้าของรถใช้ฟิวส์เป็นตัวเชื่อมไฟ หากฟิวส์เกิดขาดกะทันหัน แก้ปัญหาได้  โดยใช้กระดาษตะกั่วห่อซองบุหรี่หรือกระดาษห่อช็อกโกแลตมาหุ้มฟิวส์นั้นแล้วนำไปใช้ต่อฟิวส์นั้นก็จะทำงานได้ชั่วคราว

30. หม้อน้ำรั่วกะทันหัน  
   การแก้ไขหม้อน้ำรั่วแบบชั่วคราว โดยการหาอะไรก็ได้มาอุดรอยรั่วไม่ให้น้ำรั่วซึมออกมา โดยใช้คลั่ง ดินน้ำมันหรือหมากฝรั่งที่เราเคี้ยวแล้วก็ได้หรืออาจจะใช้สบู่หรือเทียนไขในกรณีที่หาไม่ได้  แล้วรีบนำรถเข้าอู่ซ่อมทันที

31. น้ำอัดลมทำอะไรได้บ้าง
-  ใช้น้ำอัดลม 1 กระป๋องเทลงในโถส้วมทิ้งไว้หนึ่งชั่วโมง แล้วกดชักโครก กรดซิตริกในเคื่องดื่มจะช่วยชะล้างคราบสกปรกในโถส้วมได้อย่างหมดจด
-  ใช้เป็นน้ำยาขัดสนิมที่ล้อแมกซ์ หรือพวกโครเมี่ยมต่างๆได้เป็นอย่างดี
-  ใช้ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ที่มีคราบกรดเกลือเกาะขาวๆ ให้เทน้ำอัดลมลงไปฟองฟู่ๆของมันจะช่วยกัดคราบขาวๆออกได้หมด
-  ถ้าจุกขวดพลาสติกแน่นเปิดไม่ออก ให้เอาผ้าชุบน้ำอัดลมแล้วหุ้มที่ฝาไว้ 3-5 นาทีก็จะสามารถเปิดจุกขวดได้โดยง่าย
-  ถ้าต้องการล้างคราบไขมันออกจากเสื้อให้ใช้น้ำอัดลมหนึ่งกระป๋องผสมกับผงซักฟอกแล้วซักตามปกติคราบไขมันก็จะหายเกลี้ยง
-  เอาน้ำอัดลมผสมในน้ำยาล้างกระจกรถยนต์ ฟอสฟอริคแอซิดในเครื่องดื่มจะช่วยทำความสะอาดกระจกให้ใสปิ้ง
-  ช่วยล้างครบเลือดต่างๆออกโดยง่าย

32.  ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้
     โดยใช้ไข่ขาวมาทาที่น้ำร้อนลวกให้ทั่วทิ้งไว้จนแห้ง ไปเอง แล้วรอสักพักใหญ่ๆ จึงล้างออกจะไม่มีรอยแดง หรือพองเลย ข้อสำคัญ ก่อนทาไข่ขาวอย่าให้ถูกน้ำเย็นหรือของอื่นเลย และอย่าไปแกะ หรือเกาตอนที่ใกล้จะแห้ง เพราะจะทำให้หนังถลอก

33. ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้
    โดยการใช้ยาหม่องถูตรงยางเหนียวๆของหมากฝรั่งไปมา ไม่นานยางของหมากฝรั่งก็จะหลุดออกหมดแล้วจึงนำผ้าไปซักตามปกติ

34. ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย
    โดยการใส่หลอดลงไปให้ลึกถึงก้นขวด เพื่อให้อากาศสามารถแทรกผ่าน เข้าไปในขวดได้ แล้วเทซอสมะเขือเทศก็จะไหลออกมาง่ายขึ้น

35. ถุงน่องแช่น้ำเกลือช่วยให้ถุงน่องไม่ขาดง่าย   ( สำหรับคุณผู้หญิงครับ )
    โดยการนำเกลือ 2 ถ้วยผสมกับน้ำ 1 แกลอน แช่ถุงน่องใหม่ไว้นาน 3 ชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำเย็น ยกถุงน่องขึ้น มาตากให้น้ำหยดจนแห้ง ก็จะทำให้ถุงน่องคงสภาพ และเหนียวทนนาน

36.   มันฝรั่ง สามารถกำจัดกลิ่นหัวหอมติดมือได้ โดยการนำมันฝรั่งที่ปอกแล้ว มาถูมือที่มีกลิ่นหัวหอมติดอยู่  กลิ่นหัวหอมก็จะค่อยๆ จางหายไป

37. พริกแห้งใช้ไล่แมลงวันได้
     เวลาตากของแห้งไว้ จะมีแมลงวันมาตอม ให้เอาพริกแห้ง 5 - 6 เม็ด เสียบไว้รอบกระด้ง ไอร้อนของพริก จะทำให้แมลงวันไม่กล้าเข้าใกล้

38.  เบียร์ช่วยคลายเกลียวขึ้นสนิมได้
     ให้รินเบียร์ลงไปบนเกลียวขึ้นสนิมนิดหน่อย รอ 2-3 นาที ความเป็นกรดของเบียร์ จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก และเศษสนิม ทำให้เกลียวหมุนเปิดได้ง่ายขึ้น

39. เอาผ้าไหมแช่ช่องแข็งจะทำให้รีดง่าย
      การรีดผ้าไหม ควรใช้ไฟอ่อนๆ เพราะผ้าไหมจะไหม้เกรียม หรือเป็นสีเหลืองได้ง่าย แต่ถ้าผ้าไหมยับมาก ก่อนรีดควรฉีดพรมน้ำยาให้ทั่ว แล้วพับใส่ถุงพลาสติก นำไปแช่ในช่องแข็งของตู้เย็น ประมาณ 10 -15 นาที แล้วจึงนำออกมารีด จะทำให้รีดผ้าไหมได้ง่าย และเรียบยิ่งขึ้น  

40. นำเหรียญสลึงใส่แจกันช่วยให้ดอกไม้ไม่เหี่ยวเฉา
     โดยให้หย่อนเหรียญสลึงลงไปในแจกัน ส่วนผสมที่เป็นทองแดงในเหรียญจะช่วยยับยั้งการเจริญ เติบโตของเชื้อแบคทีเรีย  ซึ่งเป็นสาเหตุให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา

41. ใบฝรั่งช่วยดูดกลิ่น
    โดยให้นำใบฝรั่งมาตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำ แยกกากใบออก น้ำมันหอมระเหยที่ได้ จะทำหน้าที่ดับกลิ่น ส่วนกากใบที่ได้ให้นำไปวางไว้ตามจุดต่างๆเพื่อช่วยดูดกลิ่นได้

42. แก้อาการเมาค้างได้โดยการดื่มน้ำกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง
    เพราะกล้วยจะทำให้กระเพาะของเราสงบลง ส่วนน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไป ในขณะที่นมก็ช่วยปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา ทำให้อาการเมาหายไปได้

43.  เมื่อเป็นไข้ไม่ควรกินฝรั่ง
    เพราะในฝรั่งมีแร่โพแทสเซียมสูง เมื่อเวลาเป็นไข้ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น การกินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงจะส่งผลให้เกิดอาการชักได้

44.. มันฝรั่งช่วยลดความดันโลหิตให้ต่ำ
    เพราะในมันฝรั่งมีสารเคมีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ชื่อว่า คูคัวไมน์ส มีสรรพคุณในการควบคุมความดันโลหิตให้ต่ำลง และมันยังรักษาโรคที่ลึกลับที่เรียกว่าโรคนอนหลับ ได้อีกด้วย

45. การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยให้คนไข้ผ่าตัดลำไส้ใหญ่หายเร็วขึ้น เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งหลังการผ่าตัด เป็นการบริหารให้ลำไส้กลับมาทำงานตามปกติได้เร็วขึ้น คนไข้จะไม่เกิดอาการลำไส้อืด ซึ่งทำให้ปวดท้อง และท้องอืด หลังจากที่ต้องหยุดทำงานไปพักหนึ่ง

46.  การกินเนยก่อนนอนทำให้นอนหลับสนิท
เพราะในเนยมี กรดอมิโน ที่มีชื่อว่า ทริปโตพัน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และสะกดให้หลับได้สนิทดีขึ้น

47. กินส้มช่วยแก้อาการเซ็งได้
     การรับประทานส้มโดยปอกเปลือกเองจะมีกลิ่นส้มที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และวิตามินซีที่ร่างกายได้รับในจำนวนที่เพียงพอ ช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้คลายความเครียดลงได้ดีออกมาด้วย

48. การกินช็อคโกแล๊ตช่วยแก้ไอได้
      เพราะ โกโก้ที่ใช้ทำช็อคโกแล๊ตมีสารที่ชื่อว่า ธีโอโบรไมน์ จะไปออกฤทธิ์ที่เส้นประสาทชื่อ เวกัสเนอร์ฟ ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับ การไอ ทำให้สามารถหยุดอาการไอเรื้อรังอย่างได้ผล

49. การกินบ๊วยช่วยเพิ่มกำลังได้
    เพราะ การที่คนเรามีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย เพราะกรดในเลือดสูง ร่างกายไม่สามารถปรับดุลความ
เป็นด่างได้ทัน แต่ บ๊วยมีความเป็นด่าง PH 7.35 ใกล้เคียงกับเลือดคนเรา จึงช่วยถ่วงดุลความเป็นด่างได้  และยังมีโปรตีน เกลือแร่ และสารอาหารจำเป็นอยู่มากอีกด้วย

50.  การกินอาหารมื้อเช้าช่วยป้องกันความจำเสื่อมได้
     เพราะ เลือดตอนเช้าจะแข็งตัวง่ายกว่าปกติ จึงมีโอกาสที่หลอดเลือดอุดตันมากขึ้น  สารอาหารไปเลี้ยง
สมองได้น้อยลงสมองจึงค่อยๆเสื่อม

51.  การแลบลิ้นให้น้ำลายยืดลงพื้น 3 หยดจะแก้เผ็ดได้
      อาการเผ็ดเกิดจากสารที่ชื่อ แคปไซซิน ที่อยู่ในพริกเข้าไปจับกับปลายประสาทรับรถที่ลิ้น ร่างกายจะก็จะแสดงปฎิกริยาโดยขับน้ำลายออกมาชะล้างเอาเจ้าสารนี้ออกไป 

52. ดูดนมยางของเด็กทารกตอนนอนจะแก้อาการนอนกรนได้
      การคาบหรืออมนายางของเด็กทารกไว้ในปากจะทำให้ลิ้นในปากอยู่นิ่ง ก็จะพลอยให้เนื้อเยื่อของเพดาน
ไม่กระเทือนสั่นไหว ขึ้นจึงไม่เกิดอาการกรนและไม่นอนอ้าปากอีกด้วย

53.  การสูดกลิ่นตัวผู้ชายทำให้หายเครียดได้    ฮ่วยๆ......ฮา....
     เพราะกลิ่นตัวผู้ชายที่เป็นคนรักนั้นมีสาร ฟีโรโมน ผสมอยู่โดยเฉพาะในผมและผิวของเขา เมื่อสูดดมแล้วจะช่วยลดอาการเครียดและเหนื่อยล้าลงได้

54. แอปเปิ้ลผลิตกระแสไฟฟ้าได้
ถ้าเสียบแผ่นสังกะสี และแผ่นทองแดง กรดในแอปเปิ้ลจะทำให้เกิดการแตกตัวของไอออน ทำให้ลูกแอปเปิ้ลเป็นเหมือนแบตเตอรี่  ซึ่งผลไม้ชนิดอื่นเช่น มะนาว เกรปฟรุ๊ต หรือมันฝรั่ง ก็ทำได้เช่นกัน

55. ปัสสาวะมนุษย์ใช้ทำยาสีฟันในสมัยโบราณ
โดยแพทย์ชาวโรมันเชื่อว่า ปัสสาวะมนุษย์ มีคุณสมบัติทำให้ฟันขาว และแข็งแรง ยาสีฟันในยุคดังกล่าว จึงเป็น น้ำยาบ้วนปากที่ทำจากปัสสาวะมนุษย์

56. วัวกระทิงไม่ได้เกลียดสี แดง
    แต่ เพราะ วัวเป็นสัตว์ตาบอดสี ไม่สามารถแยกแยะสีต่างๆ ได้ แต่การที่วัวเมื่อถูกล่อด้วยผ้าแดงเหมือนในสนามสู้วัว แล้วก็พุ่งเข้าใส่นั้น เป็นเพราะความรำคา­ และเพราะถูกยั่วยุมากกว่า

57. เพชรแท้จะไม่ติดสี
       การทดสอบดูเพชรแท้นั้น ให้ป้ายน้ำหมึกสีดำไปบนเพชร ถ้ามีความลื่นออก ไม่ติดอยู่บนเพชร แสดงว่าเป็นเพชรแท้ แต่ถ้ายังมีจุดดำตรงที่แต้มอยู่ ก็แสดงว่าเป็นเพชรเทียม

58. การทะเลาะกันทำให้แผลหายช้า
        เพราะ ความเครียดที่เกิดขึ้น ทั้งระหว่าง และหลังจากการทะเลาะกัน จะส่งผลให้ร่างกายลดการผลิตโปรตีนเม็ดเลือด ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาบาดแผล หรือส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้น้อยลงทำให้บาดแผลต่างๆ หายช้า

59. แสงแดดอ่อนๆ ช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้
    เพราะ แสงแดดอ่อนๆ จะช่วยลดการสร้างฮอร์โมน เมลาโตนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ถ้าหากเก็บตัวอยู่แต่ในที่มืดจะทำให้ฮอร์โมนตัวนี้สูงขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดการง่วง เหงา ซึมเซาได้ 

60. การฟังเพลงช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้
    เพราะการฟังเพลงทำให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟินส์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสร้างความสุขออกมา ช่วยลดความดันโลหิต และ บรรเทาอาการปวดข้อลงได้

 61. กินหวานมากทำให้ผิวเหี่ยว
     เพราะ เมื่อร่างกายมีน้ำตาลอยู่ในกระแสเลือดมากเกินไป มันจะไปเกาะติดกับเส้นใยโปรตีนที่อยู่ระหว่างเซลล์ผิว ทำให้เกิด ภาวะผิวเครียดขึ้น และนำไปสู่อาการแก่ก่อนวัย ผิวหยาบกร้านและเหี่ยวย่นในที่สุด

62. การยืนเอาปลายนิ้วมือแตะปลายนิ้วเท้าจะทำให้ผิวหน้าดูสดใส
   โดยการยืนเอาปลายนิ้วมือแตะปลายนิ้วเท้า ก้มตัวต่ำๆค้างไว้นับ 1-30 แล้วค่อยๆ ยืนขึ้นจะทำให้โลหิตบริเวณหนังศีรษะ และใบหน้าหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลกระทบให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้น

63.  แก้ปัญหาหน้ามันได้โดยการ   ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ทาหน้าให้ทั่วใบหน้า ทาแล้วไม่ต้องล้างออก น้ำเมือกจะแห้งไป เองภายใน ๕ - ๑๐ นาที ทำก่อนนอน แค่นี่หน้าก็จะหาย 

64. การฝึกกลั้นหายใจสามารถชะลอหน้าแก่ก่อนวัย
     โดยการหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ จนสุดลม แล้วหายใจเข้าทางจมูกอย่างช้าๆ ให้เต็มปอด กลั้นไว้ระยะหนึ่ง แล้วจึง หายใจออกอย่างช้าๆ ทำแบบนี้วันละ 2 ครั้งๆ ละ 20 นาที จะช่วยชะลอผิวแก่ก่อนวัย และรอยคล้ำ ได้

65. การหัวเราะต่างหากที่ช่วยเผาผลาญแคลอรีให้หมดไปได้ดีกว่าอยู่เฉยๆ ได้มากถึง 20% ซึ่งหากได้หัวเราะวันละสัก 10 -15 นาที จะช่วยเผาผลาญพลังงานลงได้มากถึง 50 แคลอรี 

66. กาวตราช้างใช้รักษาส้นเท้าแตกได้
    เพราะเมื่อปิดหนังที่แตกด้วยกาวตราช้าง สิ่งสกปรกจะเข้าไปในรอยแตกไม่ได้ ผิวจะไม่ ถูกรบกวน จึงมีการซ่อมแซมตนเองขึ้นมา มีการสร้างเซลล์ใหม่ และผลัดเซลล์เก่าออก กาวช้างก็จะหลุดออกไป แต่ห้ามใช้กับคนที่แพ้กาวตราช้าง

67. การเต้นรำทำให้ผิวสวยได้
      เพราะ การเต้นรำเพียงวันละ 20 นาทีช่วยเผาผลาญแคลอรี กระตุ้นระบบการหายใจ และระบบหมุนเวียนโลหิต ทำให้เลือดลมเดินทั่วผิว ทำให้ผิวสวยมีสุขภาพดี

68. การใส่กระโปรงสั้นในห้องแอร์เป็นประจำทำให้ขาใหญ่ได้
เพราะ ช่วงขาส่วนที่อยู่นอกกระโปรงจะเกิดการสะสมไขมันเป็นพิเศษ เพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยเฉพาะเมื่อผิวหนังเจอความหนาวเย็น ทำให้เกิดเซลลูไลท์ขึ้นจนทำให้ขาใหญ่หากจำเป็นต้องใส่กระโปรงสั้นจริงๆ ควรใส่ถุงน่องเพื่อเพิ่มความอบอุ่น

69.  การดูแลรักษารองเท้า   
   การทำความสะอาด ควรใช้น้ำยาสำหรับหนังเฉพาะอย่างโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดหรือการปรับสภาพหนังเพื่อให้อายุการใช้งานยาวนาน  ภายในรองเท้าหรือกระเป๋าใช้ผ้าชุบน้ำหมาด, เช็ดผึ่งให้แห้งและใช้ที่ดันทรงรองเท้าเพื่อไม่ให้เสียรูปทรง    หนังบางประเภทมีความไวในการดูดซับน้ำ ควรพ่นสเปร์ยกันน้ำก่อนใช้งานทุกครั้ง เก็บให้พ้นแสงแดดและอากาศถ่ายเทสะดวก ควรเก็บรักษาเครื่องหนัง ไว้ในถุงผ้าหลังการใช้งานทุกครั้ง เพื่อป้องกันการขูดขีด

70.วิธีป้องกันตะคริว
     ตะคริวเกิดขึ้น เนื่องจากร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ การดื่มน้ำและ รับประทานผลไม้สดมากๆ จึงช่วยลดการเป็นตะคริวได้...

71.อดนอนบ่อยๆ ระวังเป็นเบาหวาน
     ร่างกายที่ไม่ได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม จะใช้อินซูลินได้น้อยลง คนอดนอนบ่อยๆ จึงมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูงกว่าปกติ...

72. น้ำประปามีแร่ธาตุหลายชนิด เมื่อต้มเดือดแล้วเดือดอีกหลายๆ ครั้ง น้ำจำนวนมากจะระเหยกลายเป็นไอ ส่วนที่เหลือ จึงมีปริมาณแร่ธาตุ ชนิดต่างๆ เข้มข้นขึ้นมาก และเกินมาตรฐานการบริโภค 

73. น้ำที่ต้มเดือดนานๆ ไอออนของซิลเวอร์ไนเตรทที่อยู่ในน้ำ จะเปลี่ยนเป็นซิลเวอร์ไนไตรท์ ซึ่งเป็นสารที่ให้โทษแก่ร่างกาย และแร่ธาตุบางอย่างที่เป็นโทษต่อร่างกาย จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพราะการระเหยของน้ำ และอาจมากจนเกินขีดจำกัด ความสามารถของร่างกาย ในการกำจัดขับถ่ายออกมา จึงไม่ควรดื่มน้ำที่ต้มเดือดแล้วหลาย ๆ ครั้ง ครับ

74.ชาร์จแบตฯมือถือ 
  ชาร์จบ่อย ชาร์จถี่ ...แบตฯหมดอายุใช้งานเร็ว  โรงงานส่วนใหญ่ ออกแบบชาร์จได้ประมาณ 300-400 ครั้งชาร์จมากเกินกว่านั้น แบตฯจะเสื่อม      ฉะนั้นวิธีถนอมแบตฯง่ายๆ... อย่าชาร์จบ่อย โดยไม่จำเป็น ใช้จนหมดแล้วค่อยชาร์จ


75..เคล็ดลับ "การรักษาดวงตาเมื่อต้องอยู่หน้าคอม
  โดย หมั่นกระพริบตาให้บ่อยขึ้น   จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ปรับความสูงของจอให้เหมาะสม   ปรับตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้น  เลือกแว่นที่ใช้กับคอมพิวเตอร์  เบรกซะบ้าง   เปลี่ยนจอใหม่ เลือกใช้จอชนิดLCD (จอแบน) แม้ราคาจะแพงกว่าจอธรรมดา (CRT) แต่ช่วยถนอมตาได้มาก

76.ขิงช่วยให้ปลาทอดไม่ติดกระทะ
โดยการตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อนพอสมควร เอาขิงสดฝานเป็นชิ้นบาง ๆ ประมาณ 2-3 ชิ้น ใส่ลงในกระทะ เมื่อขิงเกรียมก็ตั้งออก แล้วนำปลาลงไปทอด ปลาก็จะไม่ติดกระทะ

77. ขจัดกลิ่นบูดที่ติดค้างภาชนะ
หากภาชนะล้างแล้วแต่ยังมีกลิ่นบูดตกค้างจากเศษอาหาร ให้ใช้สารส้มป่นละเอียดผสมกับเกลือป่นในปริมาณที่เท่า ๆ กัน ใส่ลงไปในอ่างล้าง แล้วเติมน้ำเดือดให้ท่วมภาชนะที่ต้องการขจัดกลิ่น ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หรือจนกว่าน้ำจะเย็นลง ก็ให้ทำการล้างภาชนะแล้วตามด้วยล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง จากนั้นให้นำไปตากแดดหรือเช็ดให้แห้ง กลิ่นบูดของเศษอาหารที่ติดค้างในภาชนะก็จะหายไป

78. เคล็ดลับการขจัดคราบ : เลือดสด
    ทันทีที่รู้ว่าเสื้อผ้าคุณกำลังเปื้อนคราบเลือด คุณควรจะรีบนำไปแช่น้ำกับผงซักฟอก แต่หากคราบเลือดนั้นไม่ใช่คราบเลือดสด ให้คุณนำเสื้อที่เปื้อนเลือดไปชุบน้ำเย็น หลังจากนั้นเอาเกลือโรยตรงบริเวณคราบเลือดทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาซักด้วยน้ำสบู่อีกที หรือใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์หยดบนรอยเปื้อน ซึ่งจะทำให้เกิดฟอง เมื่อหมดฟองใช้มือปัดให้แห้ง แล้วจึงนำไปซักตามปกติ

79. เคล็ดลับการขจัดคราบ : หมึก
         เคล็ดลับ ในการขจัดคราบหมึก วิธีก็ง่ายแสนง่าย แค่เพียง ฉีดสเปรย์ลงบนเสื้อที่เลอะรอยหมึกทันที เพราะจะช่วยทำให้ซักรอยหมึกออกได้ง่ายขึ้น หรือใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ด หากรอยหมึกยังไม่ออก ให้ราดด้วยน้ำมะนาวและผสมเกลือแช่ทิ้งค้างคืนไว้ แล้วค่อยซักตามปกติ รอยหมึกก็จะเลือนหายไป

80.  เคล็ดลับการขจัดคราบ : น้ำผลไม้ / ยางผลไม้
      สิ่งที่จะช่วยในการกำจัดคราบเห็นจะไม่พ้นผลไม้ด้วยกัน คือ " มะนาว " ให้ใช้มะนาวถูลงบริเวณที่เปื้อน แล้วขยี้ออกด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง ส่วนเสื้อผ้าที่เปื้อนยางผลไม้ ให้ใช้แอลกอฮอล์เช็ดตรงรอยเปื้อน ยางผลไม้จะหลุดออกแล้วจึงนำไปซักตามปกติ   

81.เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดจางๆ ขจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็กน้อย จนแป้งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก

82.เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดฝังแน่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง

83. เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบกาแฟ ขจัดคราบโดยใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ


84. เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบชอกโกแลต ขจัดคราบโดยรีบนำไปแช่น้ำอุ่นทันที ที่เปื้อน อาจใช้น้ำยาขจัดคราบฝังแน่น ช่วยด้วย จากนั้นนำไปซักแห้ง


85. เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำตาเทียน ขจัดคราบโดยใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษ ประกบบริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่นๆ รีดทับ จนน้ำตาเทียนซึมออกม าติดกับกระดาษ

86. เสื้อผ้าที่เลอะโคลน ขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออก ซักด้วยน้ำเย็นหลายๆ ครั้ง จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก

87. เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำชา  ขจัดคราบโดยรีบเทน้ำเดือด ลงบนรอยเปื้อนบนผ้า ที่ยังเป็นรอยใหม่อยู่จนสีจางลงแล้ว รีบนำไปซักทันที ให้ซักในน้ำอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออก ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก

88. เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำผลไม้ น้ำมันพืช ขจัดคราบโดยให้ขึงผ้าที่เปื้อนบนปากถัง เทน้ำเดือดลงตรงรอยเปื้อน แล้วจึงซัก


89. เสื้อผ้าที่เลอะน้ำมันขัดเงา ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบทินเนอร์ทาบริเวณที่เปื้อนในขณะที่ยังเปียกอยู่ ใช้น้ำยาซักผ้า ขยี้ตรงรอยเปื้อนทันที นำมาแช่ในน้ำอุ่น แล้วรีบซักทันที


90. เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำมันดิบ ขจัดคราบโดยขูดน้ำมันดิบ ที่ติดอยู่ออกด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูด้วยน้ำมันสน หรือน้ำมันก๊าด หรือน้ำมันเบนซิน ( ห้ามใช้น้ำเด็ดขาด) 
 
91. เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำส้มสายชู ขจัดคราบโดยผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ำ 2 ถ้วย (ครึ่งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที ล้างออกแล้วซักตามปกติ

92. เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำหมาก น้ำหมึก ขจัดคราบโดยก่อนซักให้นำเกลือป่นโรยตรงรอยเปื้อน แล้วบีบน้ำมะนาว ลงไปให้ชุ่ม ผึ่งแดดไว้ครึ่งวัน จึงค่อยนำไปซัก

93. เสื้อผ้าที่เลอะกาว ขจัดคราบได้โดย ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้อน นำมาแช่ในน้ำเย็น แล้วซักตามปกติ

94.เสื้อผ้าที่เลอะขี้ผึ้ง ขจัดคราบได้โดย วางกระดาษซับบนรอยเปื้อนแล้วกดด้วยเตารีดที่ร้อน เปลี่ยนกระดาษ จนกระทั่งไขทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด ถ้าเป็นผ้าที่บาง หรือผ้าไหม ให้ใช้กระดาษทิชชู และเตารีดที่เย็นกว่า

95. หากเสื้อผ้าคุณเปื้อน ช็อคโกแลต หรือกาแฟ คุณสามารถกำจัดคราบได้โดยใช้กลีเซอรีนทาทิ้งไว้บริเวณที่เปื้อน
หลังจากนั้นจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่นกึ่งร้อนอีกครั้ง เพื่อละลายไขมัน คราบเปื้อนที่เกิดจากช็อคโกแลต และกาแฟ ก็จะจางหายไป…

96. การขจัดคราบ ลิปสติก
   นำน้ำตาลทรายมาผสมน้ำ แล้วถูตรงบริเวณที่มีลิปสติกเปื้อน จากนั้นหาผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดออก
อีกวิธีคือใช้ยาสีฟันหรือวาสลินทาตรงรอยเปื้อน แล้วเอาไปซักตามปกติ รอยลิปสติกจะค่อยๆ จางหายไป

97.น้ำส้มสายชูขจัดคราบมัน
       ลองเติม น้ำส้มสายชูขาวกลั่นลงใน น้ำยาล้างจาน จะช่วยขจัดคราบมันได้ค่ะ นอกจากนี้ถ้านำไป ผสมกับน้ำอุ่น ก็ยังสามารถ นำไปล้าง พื้นกระเบื้องหรือกระจกได้โดยไม่ทำให้เป็นรอย อีกด้วย หรือถ้าจะนำไป เช็ดคราบมันที่เตา ก็ไม่มีปัญหา

98. ถ้าบังเอิญ เสื้อตัวโปรดของคุณดันถูกสีกระเด็นใส่เข้าให้แล้วล่ะก็ ไม่ต้องตกใจนะคะ คุณสามารถที่จะขจัดคราบนั้นได้โดย การใช้น้ำมันสนเช็ดบริเวณที่เปื้อนสี ทิ้งไว้สักพัก แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสบู่ หรือใช้แอมโมเนียผสมน้ำ จากนั้นเอาผ้าที่เปื้อนสีแช่ไว้ครึ่งชั่วโมง แล้วนำไป