วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

มีบางข้อที่ใช่และไม่ใช่

มีบางข้อที่ใช่และไม่ใช่
1. เมื่อยางมะตอยติดรถคุณ
แบบถูกๆลองดูน้ำมันก๊าดครับ  ใช้ผ้านุ่มๆชุบ ลูบเบาๆ พอออกหมด แล้วใช้ แชมพูล้างรถ ล้างซ้ำทันที อย่าใช้น้ำมันเบนซินเป็นอันขาดนะครับหรือแบบแพงหน่อยก็ดูน้ำที่ใช้ขัดยางมะตอยโดยเฉพาะเช่น  คาร์โก้
หรือ cana , sonax   เป็นต้น

2. การขจัดกลิ่นของเบาะหนัง
เบาะหนังในรถของคุณใช้ไปนาน ๆ อาจมีกลิ่นไม่ดีออกมาให้ผสมโซดาไบคาร์บอเนตหนึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำ 500 มล. มาทำความสะอาดให้ทั่วจะช่วยลดกลิ่นเบาะให้ทุเลาลง

3. การป้องกันขนสุนัขร่วงในรถ
  หากคุณมีความจำเป็นต้องพาสุนัขไปกับคุณด้วย การใช้เสื้อผ้าสำหรับสุนัขที่มีขายตามท้องตลาด จะแก้การใช้เสื้อผ้าสำหรับสุนัขที่มีขายตามท้องตลาดจะแก้ปัญหาไม่ให้ขนสุนัขร่วงลงรถชั่วขณะ  แม้มันจะรำคาญบ้างก็อย่าไปยอมถอดให้มัน

4. ขจัดกลิ่นรถใหม่
    รถใหม่ป้ายแดงคุณอาจจะรำคาญกลิ่นพลาสติก ที่เหม็นรุนแรงแก้ปัญหาได้โดยใช้น้ำส้มสายชู ผสมน้ำมาชโลมให้ทั่วภายในรถแล้วเช็ดให้สะอาด แล้วหาซื้อน้ำหอมปรับอากาศมาใส่ซะ


5. การขจัดกลิ่นเหม็นอับในรถยนต์
   ขจัดให้หายได้ โดยใส่เบ็คกิ้งโซดาลงในที่เขี่ยบุหรี่ของรถ 1 ช้อนโต๊ะ หลังจากทำความสะอาดแล้ว หรืออาจใช้เบ็คกิ้งโซดาเช็ดถูเบาะ พรม ให้สะอาดได้ด้วย เบ็คกิ้งโซดาจะช่วยขจัดหลิ่นไม่ดีออกได้หมด


6.  หากโรงรถมีกลิ่นอับให้ใช้ถุงผ้าใส่ถ่านไม้ผูกให้แน่น นำไปแขวนไว้จะช่วยขจัดกลิ่นเหม็นได้อย่างดี

7. วิธีทำความสะอาดพื้นโรงรถที่เปื้อนน้ำมันเครื่องให้โรยด้วยทราย ทิ้งไว้ 1 คืน กวาด ทรายออกไป  คราบน้ำมันก็จะหลุดออกไปด้วยกับทรายนั่นเอง

8. วิธีทำความสะอาดพรมที่เปื้อนคราบน้ำมัน  ให้เทเบกกิ้งโซดาลงตรงบริเวณที่ เปื้อนคราบน้ำมัน  ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดตรง รอยเปื้อนน้ำมันนั้น คราบก็จะจางหายไป  

9. การลบรอยขีดข่วนบนกระจกหน้ารถ
   ใช้บราสโซขัดทองเหลืองหรือยาสีฟันทาให้ทั่ว รอยขีดข่วน แล้วใช้ผ้าแห้งถูออก อาจต้องทำหลายครั้งจะดูดีขึ้น
จากนั้นก็ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดทำความสะอาดเป็นครั้งสุดท้ายก็จะได้กระจกหน้ารถที่ดูใสแวววาว

10. คราบสติ๊กเกอร์บนกระจก
    รถบ้านเราชอบตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์ตามกระจกหลังหากต้องการเลาะออกให้เป็นสภาพดังเดิม
ใช้มีดโกนหนวดบางมารีดเลาะออก แล้วใช้สำลีชุบน้ำยาทาเล็บมาล้างคราบสติ๊กเกอร์ ครู่เดียวก็จะละลายออกหมด
จากนั้นจึงใช้เมทิลแอลกอฮอล์เช็ดกระจกอีกทีแค่นี้ก็เรียบร้อย

11.ยางมะตอยติดล้อรถ
 หากคุณเผลอไผลหรือหลบเลี่ยงไม่ได้ ต้องขับรถเข้าไปในบริเวณที่มีการซ่อมถนนอยู่และมีการราดยางมะตอยใหม่ ๆ ยางมะตอยหรือน้ำมันดิบที่เปรอะเปื้อนล้อรถและตัวถัง ให้ใช้เบ็คกิ้งโซดาละลายรอยเปื้อนต่าง ๆ ก็จะออกได้


12. ขจัดคราบน้ำมันบนตัวถังรถ
    ใช้ฟองน้ำจุ่มลงในน้ำผสมเบ็คกิ้งโซดา ทาตรงบริเวณที่มีคราบน้ำมันจับ คราบน้ำมันจะหลุดออกอย่างง่ายดาย
ไม่กระทบกระเทือนสีรถด้วย

13. กำจัดแมลงที่ติดฝาครอบรถยนต์และตะแกรงหน้ารถ
    ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้สเปรย์พ่นยุงพ่นที่ฝาครอบรถและตะแกรงหน้ารถตัวแมลงเล็ก ๆ ก็จะหลุดออกง่าย
และไม่ทำลายความเป็นเงาของสีรถ

14.  รอยเปื้อนกระจกหน้ารถจากตัวแมลงหรือน้ำที่กระเด็นใส่
     แก้ไขด้วยใช้ฟองน้ำชุปเบ็คกิ้งโซดา แล้วเอาฟองน้ำสะอาดเช็ดกระจกจนแห้ง ผงเบ็คกิ้งโซดาจะไม่ทำให้กระจกเป็นรอยใช้ทำความสะอาดไฟหน้าไฟท้ายและกันชนได้

15. ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดกระจก แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อโรค และยังใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เป็นแก้วหรือกระจกได้ กระจกรถของคุณที่มีคราบสกปรก จะถูกขจัดได้อย่างง่ายดายด้วยแอลกอฮอล์

16. เครื่องเป่าผมก็มีประโยชน์
   รถที่สตาร์ทไม่ติดอันเนื่องมาจากปัญหาความชื้นลองใช้เครื่องเป่าผมเป่าความร้อนบริเวณเครื่องยนต์
ที่คิดว่ามีความชื้นจนกว่าจะแห้ง แล้วลองสตาร์ทใหม่ดูอีกครั้ง

17. ทำความสะอาดคราบซิลิโคน ที่ไม่ทำลายสีรถหรือฟิลม์เคลือบสีรถ
   ลองใช้  น้ำมัน มะพร้าว หรือ มะกอก หรือ  ทาทิ้งไว้สักพักครับ แล้วใช้ผ้า นุ่มๆ เช็คทิ้ง  ทำหลายครั้งๆ จนคราบซีลิโคน หลุดออกหมด  แล้วค่อยล้าง น้ำมันที่ ผิวสีรถ  ด้วยโฟม หรือ แชมพู ล้างรถ ทีหลัง  กรณี นี้ สามารถ นำไปใช้ ล้างคราบ กาว สองหน้าที่ ติดกระจก หน้ารถ เวลาลอก แผ่นกาว ปิดใบ พรบ.บุคคล หรือ ใบเสียภาษี หน้ารถได้ ครับ  ลองดูนะครับ  น้ำมันพวกนี้ ไม่มีฤทธิ์ เป็น กรด หรือ ด่างทำลาย สี

18.   ถ้าพรมเปียกน้ำเพียงเล็กน้อย ให้นำผ้าหรือกระดาษทิชชูมาซับน้ำออกนำรถมาจอดไว้กลางแดด โดยเปิดกระจกทิ้งไว้ ความร้อนจะช่วยทำให้พรมแห้งแต่ในกรณีที่น้ำเปียกพรมมาก ควรถอดเบาะนั่งออกก่อน หลังจากนั้นจึงถอดพรมออกมาซักแล้วผึ่งแดดจัดๆ เหมือนการตากผ้าทั่วไปเพียงแต่อาจต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 2 วัน หรือจนกว่าพรมจะแห้งสนิทจึงนำเข้าที่ตามเดิม ซึ่งหากท่านไม่สามารถถอดอุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วยตนเอง วิธีที่ดีที่สุด คือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างที่ชำนาญถอดพรมออกซัก

19.พรมเปื้อนโคลนหรืออาเจียนการทำความสะอาดที่ถูกวิธี ควรใช้อุปกรณ์ตักเซาะเอาเศษความสกปรกออก หลังจากนั้นใช้ผ้าแห้งที่สะอาด หรือกระดาษซับความเปียกชื้นออกไปจนหมาด ควรเช็ดจากวงนอกเข้าไปกลางจุดที่เปื้อน เพื่อป้องกันความสกปรกขยายวงกว้างออกไป ถ้าความสกปรกยังไม่หมดไปใข้แชมพูซักพรมฉีดบริเวณนั้น หากภายในรถของท่านยังมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ติดอยู่ ควรนำรถไปจอดกลางแดดที่ร้อนจัดปิดกระจกทุกบานไว้ประมาณ 2-5 ชั่วโม จึงค่อยเปิดประตูรถให้ลมพัดผ่าน ความร้อนจากแสงแดดจะช่วยทำลายกลิ่นให้จางลงหรือหมดไป หากยังไม่หายสนิทก็ทำซ้ำเช่นนี้อีกจนกว่ากลิ่นจะจางลงไป

20. หมากฝรั่งติดพรม
   การขูดเซาะออกขณะที่หมากฝรั่งอ่อนตัวทำได้ยาก เนื่องจากหมากฝรั่งจะเหนียวทำให้เกิดความเสียหายกับเนื้อพรมได้ และถ้าไม่ระวังหมากฝรั่งอาจจะเลอะเทอะกระจายเพิ่มขึ้น วิธีที่พึงปฏิบัติคือใช้ก้อนน้ำแข็งมาประคบที่หมากฝรั่งให้เย็นจนแข็งตัว จากนั้นก็ใช้ช้อนขูดออก จะทำให้หมากฝรั่งขูดออกได้ง่ายขึ้น

21.พรมเปื้อนสารเคมี
    ในกรณีที่พรมเปื้อนสารเคมีที่เกิดจากน้ำยาทาเล็บ น้ำมันเครื่องหรือไขจารบี การซักด้วยน้ำเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่สามารถล้างคราบของสารเคมีออกได้หมด เพราะจะมีความมันติดหลงเหลืออยู่ ควรใช้แขมพูสำหรับซักพรม โดยเฉพาะมาทำการล้างออกทันทีก่อนที่สารเคมีเหล่านี้จะจับนานซึ่งอาจจะทำให้ล้างออกยาก

22.  เมื่อจะล้างล้อแม็กซ์และยาง ควรรอให้ยางมีอุณหภูมิเย็นลงเป็นปกติเสียก่อน เพราะความร้อนจะทำให้น้ำและน้ำยาหรือสบู่อ่อนระเหยแห้งไวเป็นสาเหตุ ให้เกิดรอยด่างได้ง่าย  

23.  หากจะขัดทำความสะอาดล้อแม็กและยาง ด้วยน้ำยาหรือสบู่อ่อน ให้เลือกใช้ แต่แปรงชนิดขนอ่อน เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยตามมา และควรเคลือบเงา ด้วยน้ำยาด้วย และไม่ควรใช้น้ำร้อนทำความสะอาดล้อแม็กเด็ดขาด มิเช่นนั้นสารที่เคลือบผิวล้อแม็ก ไว้จะถูกทำลาย

24. น้ำมันเบรกจะสามารถทำปฏิกิริยากับสีรถได้
  ในการเติมน้ำมันเบรกพยายามอย่าทำน้ำมันเบรกหกหรือหยดลงบริเวณตัวถัง หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้รีบเช็ดให้แห้งทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเพราะจะทำให้สีรถถลอกได้และห้ามวางขวดน้ำมันเบรกบนฝากระโปรงรถเด็ดขาด

25. การทำความสะอาดแบตเตอรี่  
  ถ้าเกิดขึ้เกลือขึ้นในขั้วแบตเตอรี่ทั้ง 2 ข้าง ให้ถอดขั้วทั้ง 2 ออกมา ใช้แปรงลวดขัดบริเวณที่เกิดขี้เกลือบริเวณทั้งสองข้างถ้าเป็นรอยสกปรกธรรมดาใช้ผ้าเช็ดก็ได้  เมื่อทำความสะอาดเสร็จให้ใช้จาระบีทาที่ขั้วแบตเตอรี่และขั้วทองแดงทั้งสองขั้ว    ให้ใส่ขั้วกลับลงไปที่เดิม โดยให้สายขั้วบวกใส่ในตำแหน่งขั้วบวก สายขั้วลบใส่ในตำแหน่งขั้วลบ

26. ควรปิดคอมเพรสเซอร์แอร์ ก่อนดับเครื่อง ช่วยยืดอายุตู้แอร์ ระบบทำความเย็นทั้งภายในรถและอาคาร อาศัยหลักการถ่ายเทความเย็น และระบายความร้อน ซึ่งตู้แอร์ หรือคอยล์เย็น จะมีสารทำความเย็นบรรจุอยู่ภายใน โดยมีพัดลมทำหน้าที่เป่าลม การปิดพัดลมหลังดับเครื่อง ความเย็นยังคงอยู่ภายในระบบ ตู้แอร์จึงชื้น และกลายเป็นที่สะสมฝุ่นละออง ซึ่งจะทำให้ลมผ่านได้ไม่สะดวก เกิดการอุดตัน และตู้รั่ว
การปิดคอมเพรสเซอร์ หรือปิดสวิทช์ AC ก่อนดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 5 -10 นาที จะช่วยไล่ความชื้นในตู้แอร์ ไม่เป็นที่สะสมฝุ่น นอกจากจะช่วยยืดอายุตู้แอร์ ยังช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ที่มักเกิดพร้อมๆ กับความชื้นอีกด้วย

27. ยางรถยนต์เก่าก็มีประโยชน์   ยางรถยนต์เก่าที่ไม่ใช้แล้ว นำไปผูกแขวนไว้ในโรงรถ ตรงที่หัวรถจะแล่นเข้าจอด ยางจะเป็นกันชนเมื่อเวลาเราถอยรถเข้าเก็บในที่จอดรถ

28.  กรวยเติมน้ำมันฉุกเฉิน   น้ำมันแห้งสนิทกลางทาง ซื้อน้ำมันใส่แกลลอนมาแต่ดันลืมติดกรวยมาด้วย ไม่ยากเลย   เพียงหาถ้วยใส่น้ำอัดลมพลาสติค ผ่าแล้วม้วนเป็นรูปกรวยมาเป็นที่เติม หรือใช้กระดาษทบกันหลาย ๆ ชั้น มาพับเป็นรูปกรวยก็ได้พอจะแก้ขัดไปครั้งหนึ่ง

29. ฟิวส์ซองบุหรี่   ระบบไฟฟ้าของรถใช้ฟิวส์เป็นตัวเชื่อมไฟ หากฟิวส์เกิดขาดกะทันหัน แก้ปัญหาได้  โดยใช้กระดาษตะกั่วห่อซองบุหรี่หรือกระดาษห่อช็อกโกแลตมาหุ้มฟิวส์นั้นแล้วนำไปใช้ต่อฟิวส์นั้นก็จะทำงานได้ชั่วคราว

30. หม้อน้ำรั่วกะทันหัน  
   การแก้ไขหม้อน้ำรั่วแบบชั่วคราว โดยการหาอะไรก็ได้มาอุดรอยรั่วไม่ให้น้ำรั่วซึมออกมา โดยใช้คลั่ง ดินน้ำมันหรือหมากฝรั่งที่เราเคี้ยวแล้วก็ได้หรืออาจจะใช้สบู่หรือเทียนไขในกรณีที่หาไม่ได้  แล้วรีบนำรถเข้าอู่ซ่อมทันที

31. น้ำอัดลมทำอะไรได้บ้าง
-  ใช้น้ำอัดลม 1 กระป๋องเทลงในโถส้วมทิ้งไว้หนึ่งชั่วโมง แล้วกดชักโครก กรดซิตริกในเคื่องดื่มจะช่วยชะล้างคราบสกปรกในโถส้วมได้อย่างหมดจด
-  ใช้เป็นน้ำยาขัดสนิมที่ล้อแมกซ์ หรือพวกโครเมี่ยมต่างๆได้เป็นอย่างดี
-  ใช้ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ที่มีคราบกรดเกลือเกาะขาวๆ ให้เทน้ำอัดลมลงไปฟองฟู่ๆของมันจะช่วยกัดคราบขาวๆออกได้หมด
-  ถ้าจุกขวดพลาสติกแน่นเปิดไม่ออก ให้เอาผ้าชุบน้ำอัดลมแล้วหุ้มที่ฝาไว้ 3-5 นาทีก็จะสามารถเปิดจุกขวดได้โดยง่าย
-  ถ้าต้องการล้างคราบไขมันออกจากเสื้อให้ใช้น้ำอัดลมหนึ่งกระป๋องผสมกับผงซักฟอกแล้วซักตามปกติคราบไขมันก็จะหายเกลี้ยง
-  เอาน้ำอัดลมผสมในน้ำยาล้างกระจกรถยนต์ ฟอสฟอริคแอซิดในเครื่องดื่มจะช่วยทำความสะอาดกระจกให้ใสปิ้ง
-  ช่วยล้างครบเลือดต่างๆออกโดยง่าย

32.  ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้
     โดยใช้ไข่ขาวมาทาที่น้ำร้อนลวกให้ทั่วทิ้งไว้จนแห้ง ไปเอง แล้วรอสักพักใหญ่ๆ จึงล้างออกจะไม่มีรอยแดง หรือพองเลย ข้อสำคัญ ก่อนทาไข่ขาวอย่าให้ถูกน้ำเย็นหรือของอื่นเลย และอย่าไปแกะ หรือเกาตอนที่ใกล้จะแห้ง เพราะจะทำให้หนังถลอก

33. ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้
    โดยการใช้ยาหม่องถูตรงยางเหนียวๆของหมากฝรั่งไปมา ไม่นานยางของหมากฝรั่งก็จะหลุดออกหมดแล้วจึงนำผ้าไปซักตามปกติ

34. ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย
    โดยการใส่หลอดลงไปให้ลึกถึงก้นขวด เพื่อให้อากาศสามารถแทรกผ่าน เข้าไปในขวดได้ แล้วเทซอสมะเขือเทศก็จะไหลออกมาง่ายขึ้น

35. ถุงน่องแช่น้ำเกลือช่วยให้ถุงน่องไม่ขาดง่าย   ( สำหรับคุณผู้หญิงครับ )
    โดยการนำเกลือ 2 ถ้วยผสมกับน้ำ 1 แกลอน แช่ถุงน่องใหม่ไว้นาน 3 ชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำเย็น ยกถุงน่องขึ้น มาตากให้น้ำหยดจนแห้ง ก็จะทำให้ถุงน่องคงสภาพ และเหนียวทนนาน

36.   มันฝรั่ง สามารถกำจัดกลิ่นหัวหอมติดมือได้ โดยการนำมันฝรั่งที่ปอกแล้ว มาถูมือที่มีกลิ่นหัวหอมติดอยู่  กลิ่นหัวหอมก็จะค่อยๆ จางหายไป

37. พริกแห้งใช้ไล่แมลงวันได้
     เวลาตากของแห้งไว้ จะมีแมลงวันมาตอม ให้เอาพริกแห้ง 5 - 6 เม็ด เสียบไว้รอบกระด้ง ไอร้อนของพริก จะทำให้แมลงวันไม่กล้าเข้าใกล้

38.  เบียร์ช่วยคลายเกลียวขึ้นสนิมได้
     ให้รินเบียร์ลงไปบนเกลียวขึ้นสนิมนิดหน่อย รอ 2-3 นาที ความเป็นกรดของเบียร์ จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก และเศษสนิม ทำให้เกลียวหมุนเปิดได้ง่ายขึ้น

39. เอาผ้าไหมแช่ช่องแข็งจะทำให้รีดง่าย
      การรีดผ้าไหม ควรใช้ไฟอ่อนๆ เพราะผ้าไหมจะไหม้เกรียม หรือเป็นสีเหลืองได้ง่าย แต่ถ้าผ้าไหมยับมาก ก่อนรีดควรฉีดพรมน้ำยาให้ทั่ว แล้วพับใส่ถุงพลาสติก นำไปแช่ในช่องแข็งของตู้เย็น ประมาณ 10 -15 นาที แล้วจึงนำออกมารีด จะทำให้รีดผ้าไหมได้ง่าย และเรียบยิ่งขึ้น  

40. นำเหรียญสลึงใส่แจกันช่วยให้ดอกไม้ไม่เหี่ยวเฉา
     โดยให้หย่อนเหรียญสลึงลงไปในแจกัน ส่วนผสมที่เป็นทองแดงในเหรียญจะช่วยยับยั้งการเจริญ เติบโตของเชื้อแบคทีเรีย  ซึ่งเป็นสาเหตุให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา

41. ใบฝรั่งช่วยดูดกลิ่น
    โดยให้นำใบฝรั่งมาตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำ แยกกากใบออก น้ำมันหอมระเหยที่ได้ จะทำหน้าที่ดับกลิ่น ส่วนกากใบที่ได้ให้นำไปวางไว้ตามจุดต่างๆเพื่อช่วยดูดกลิ่นได้

42. แก้อาการเมาค้างได้โดยการดื่มน้ำกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง
    เพราะกล้วยจะทำให้กระเพาะของเราสงบลง ส่วนน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไป ในขณะที่นมก็ช่วยปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา ทำให้อาการเมาหายไปได้

43.  เมื่อเป็นไข้ไม่ควรกินฝรั่ง
    เพราะในฝรั่งมีแร่โพแทสเซียมสูง เมื่อเวลาเป็นไข้ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น การกินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงจะส่งผลให้เกิดอาการชักได้

44.. มันฝรั่งช่วยลดความดันโลหิตให้ต่ำ
    เพราะในมันฝรั่งมีสารเคมีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ชื่อว่า คูคัวไมน์ส มีสรรพคุณในการควบคุมความดันโลหิตให้ต่ำลง และมันยังรักษาโรคที่ลึกลับที่เรียกว่าโรคนอนหลับ ได้อีกด้วย

45. การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยให้คนไข้ผ่าตัดลำไส้ใหญ่หายเร็วขึ้น เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งหลังการผ่าตัด เป็นการบริหารให้ลำไส้กลับมาทำงานตามปกติได้เร็วขึ้น คนไข้จะไม่เกิดอาการลำไส้อืด ซึ่งทำให้ปวดท้อง และท้องอืด หลังจากที่ต้องหยุดทำงานไปพักหนึ่ง

46.  การกินเนยก่อนนอนทำให้นอนหลับสนิท
เพราะในเนยมี กรดอมิโน ที่มีชื่อว่า ทริปโตพัน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และสะกดให้หลับได้สนิทดีขึ้น

47. กินส้มช่วยแก้อาการเซ็งได้
     การรับประทานส้มโดยปอกเปลือกเองจะมีกลิ่นส้มที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และวิตามินซีที่ร่างกายได้รับในจำนวนที่เพียงพอ ช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้คลายความเครียดลงได้ดีออกมาด้วย

48. การกินช็อคโกแล๊ตช่วยแก้ไอได้
      เพราะ โกโก้ที่ใช้ทำช็อคโกแล๊ตมีสารที่ชื่อว่า ธีโอโบรไมน์ จะไปออกฤทธิ์ที่เส้นประสาทชื่อ เวกัสเนอร์ฟ ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับ การไอ ทำให้สามารถหยุดอาการไอเรื้อรังอย่างได้ผล

49. การกินบ๊วยช่วยเพิ่มกำลังได้
    เพราะ การที่คนเรามีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย เพราะกรดในเลือดสูง ร่างกายไม่สามารถปรับดุลความ
เป็นด่างได้ทัน แต่ บ๊วยมีความเป็นด่าง PH 7.35 ใกล้เคียงกับเลือดคนเรา จึงช่วยถ่วงดุลความเป็นด่างได้  และยังมีโปรตีน เกลือแร่ และสารอาหารจำเป็นอยู่มากอีกด้วย

50.  การกินอาหารมื้อเช้าช่วยป้องกันความจำเสื่อมได้
     เพราะ เลือดตอนเช้าจะแข็งตัวง่ายกว่าปกติ จึงมีโอกาสที่หลอดเลือดอุดตันมากขึ้น  สารอาหารไปเลี้ยง
สมองได้น้อยลงสมองจึงค่อยๆเสื่อม

51.  การแลบลิ้นให้น้ำลายยืดลงพื้น 3 หยดจะแก้เผ็ดได้
      อาการเผ็ดเกิดจากสารที่ชื่อ แคปไซซิน ที่อยู่ในพริกเข้าไปจับกับปลายประสาทรับรถที่ลิ้น ร่างกายจะก็จะแสดงปฎิกริยาโดยขับน้ำลายออกมาชะล้างเอาเจ้าสารนี้ออกไป 

52. ดูดนมยางของเด็กทารกตอนนอนจะแก้อาการนอนกรนได้
      การคาบหรืออมนายางของเด็กทารกไว้ในปากจะทำให้ลิ้นในปากอยู่นิ่ง ก็จะพลอยให้เนื้อเยื่อของเพดาน
ไม่กระเทือนสั่นไหว ขึ้นจึงไม่เกิดอาการกรนและไม่นอนอ้าปากอีกด้วย

53.  การสูดกลิ่นตัวผู้ชายทำให้หายเครียดได้    ฮ่วยๆ......ฮา....
     เพราะกลิ่นตัวผู้ชายที่เป็นคนรักนั้นมีสาร ฟีโรโมน ผสมอยู่โดยเฉพาะในผมและผิวของเขา เมื่อสูดดมแล้วจะช่วยลดอาการเครียดและเหนื่อยล้าลงได้

54. แอปเปิ้ลผลิตกระแสไฟฟ้าได้
ถ้าเสียบแผ่นสังกะสี และแผ่นทองแดง กรดในแอปเปิ้ลจะทำให้เกิดการแตกตัวของไอออน ทำให้ลูกแอปเปิ้ลเป็นเหมือนแบตเตอรี่  ซึ่งผลไม้ชนิดอื่นเช่น มะนาว เกรปฟรุ๊ต หรือมันฝรั่ง ก็ทำได้เช่นกัน

55. ปัสสาวะมนุษย์ใช้ทำยาสีฟันในสมัยโบราณ
โดยแพทย์ชาวโรมันเชื่อว่า ปัสสาวะมนุษย์ มีคุณสมบัติทำให้ฟันขาว และแข็งแรง ยาสีฟันในยุคดังกล่าว จึงเป็น น้ำยาบ้วนปากที่ทำจากปัสสาวะมนุษย์

56. วัวกระทิงไม่ได้เกลียดสี แดง
    แต่ เพราะ วัวเป็นสัตว์ตาบอดสี ไม่สามารถแยกแยะสีต่างๆ ได้ แต่การที่วัวเมื่อถูกล่อด้วยผ้าแดงเหมือนในสนามสู้วัว แล้วก็พุ่งเข้าใส่นั้น เป็นเพราะความรำคา­ และเพราะถูกยั่วยุมากกว่า

57. เพชรแท้จะไม่ติดสี
       การทดสอบดูเพชรแท้นั้น ให้ป้ายน้ำหมึกสีดำไปบนเพชร ถ้ามีความลื่นออก ไม่ติดอยู่บนเพชร แสดงว่าเป็นเพชรแท้ แต่ถ้ายังมีจุดดำตรงที่แต้มอยู่ ก็แสดงว่าเป็นเพชรเทียม

58. การทะเลาะกันทำให้แผลหายช้า
        เพราะ ความเครียดที่เกิดขึ้น ทั้งระหว่าง และหลังจากการทะเลาะกัน จะส่งผลให้ร่างกายลดการผลิตโปรตีนเม็ดเลือด ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาบาดแผล หรือส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้น้อยลงทำให้บาดแผลต่างๆ หายช้า

59. แสงแดดอ่อนๆ ช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้
    เพราะ แสงแดดอ่อนๆ จะช่วยลดการสร้างฮอร์โมน เมลาโตนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ถ้าหากเก็บตัวอยู่แต่ในที่มืดจะทำให้ฮอร์โมนตัวนี้สูงขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดการง่วง เหงา ซึมเซาได้ 

60. การฟังเพลงช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้
    เพราะการฟังเพลงทำให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟินส์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสร้างความสุขออกมา ช่วยลดความดันโลหิต และ บรรเทาอาการปวดข้อลงได้

 61. กินหวานมากทำให้ผิวเหี่ยว
     เพราะ เมื่อร่างกายมีน้ำตาลอยู่ในกระแสเลือดมากเกินไป มันจะไปเกาะติดกับเส้นใยโปรตีนที่อยู่ระหว่างเซลล์ผิว ทำให้เกิด ภาวะผิวเครียดขึ้น และนำไปสู่อาการแก่ก่อนวัย ผิวหยาบกร้านและเหี่ยวย่นในที่สุด

62. การยืนเอาปลายนิ้วมือแตะปลายนิ้วเท้าจะทำให้ผิวหน้าดูสดใส
   โดยการยืนเอาปลายนิ้วมือแตะปลายนิ้วเท้า ก้มตัวต่ำๆค้างไว้นับ 1-30 แล้วค่อยๆ ยืนขึ้นจะทำให้โลหิตบริเวณหนังศีรษะ และใบหน้าหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลกระทบให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้น

63.  แก้ปัญหาหน้ามันได้โดยการ   ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ทาหน้าให้ทั่วใบหน้า ทาแล้วไม่ต้องล้างออก น้ำเมือกจะแห้งไป เองภายใน ๕ - ๑๐ นาที ทำก่อนนอน แค่นี่หน้าก็จะหาย 

64. การฝึกกลั้นหายใจสามารถชะลอหน้าแก่ก่อนวัย
     โดยการหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ จนสุดลม แล้วหายใจเข้าทางจมูกอย่างช้าๆ ให้เต็มปอด กลั้นไว้ระยะหนึ่ง แล้วจึง หายใจออกอย่างช้าๆ ทำแบบนี้วันละ 2 ครั้งๆ ละ 20 นาที จะช่วยชะลอผิวแก่ก่อนวัย และรอยคล้ำ ได้

65. การหัวเราะต่างหากที่ช่วยเผาผลาญแคลอรีให้หมดไปได้ดีกว่าอยู่เฉยๆ ได้มากถึง 20% ซึ่งหากได้หัวเราะวันละสัก 10 -15 นาที จะช่วยเผาผลาญพลังงานลงได้มากถึง 50 แคลอรี 

66. กาวตราช้างใช้รักษาส้นเท้าแตกได้
    เพราะเมื่อปิดหนังที่แตกด้วยกาวตราช้าง สิ่งสกปรกจะเข้าไปในรอยแตกไม่ได้ ผิวจะไม่ ถูกรบกวน จึงมีการซ่อมแซมตนเองขึ้นมา มีการสร้างเซลล์ใหม่ และผลัดเซลล์เก่าออก กาวช้างก็จะหลุดออกไป แต่ห้ามใช้กับคนที่แพ้กาวตราช้าง

67. การเต้นรำทำให้ผิวสวยได้
      เพราะ การเต้นรำเพียงวันละ 20 นาทีช่วยเผาผลาญแคลอรี กระตุ้นระบบการหายใจ และระบบหมุนเวียนโลหิต ทำให้เลือดลมเดินทั่วผิว ทำให้ผิวสวยมีสุขภาพดี

68. การใส่กระโปรงสั้นในห้องแอร์เป็นประจำทำให้ขาใหญ่ได้
เพราะ ช่วงขาส่วนที่อยู่นอกกระโปรงจะเกิดการสะสมไขมันเป็นพิเศษ เพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยเฉพาะเมื่อผิวหนังเจอความหนาวเย็น ทำให้เกิดเซลลูไลท์ขึ้นจนทำให้ขาใหญ่หากจำเป็นต้องใส่กระโปรงสั้นจริงๆ ควรใส่ถุงน่องเพื่อเพิ่มความอบอุ่น

69.  การดูแลรักษารองเท้า   
   การทำความสะอาด ควรใช้น้ำยาสำหรับหนังเฉพาะอย่างโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดหรือการปรับสภาพหนังเพื่อให้อายุการใช้งานยาวนาน  ภายในรองเท้าหรือกระเป๋าใช้ผ้าชุบน้ำหมาด, เช็ดผึ่งให้แห้งและใช้ที่ดันทรงรองเท้าเพื่อไม่ให้เสียรูปทรง    หนังบางประเภทมีความไวในการดูดซับน้ำ ควรพ่นสเปร์ยกันน้ำก่อนใช้งานทุกครั้ง เก็บให้พ้นแสงแดดและอากาศถ่ายเทสะดวก ควรเก็บรักษาเครื่องหนัง ไว้ในถุงผ้าหลังการใช้งานทุกครั้ง เพื่อป้องกันการขูดขีด

70.วิธีป้องกันตะคริว
     ตะคริวเกิดขึ้น เนื่องจากร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ การดื่มน้ำและ รับประทานผลไม้สดมากๆ จึงช่วยลดการเป็นตะคริวได้...

71.อดนอนบ่อยๆ ระวังเป็นเบาหวาน
     ร่างกายที่ไม่ได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม จะใช้อินซูลินได้น้อยลง คนอดนอนบ่อยๆ จึงมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูงกว่าปกติ...

72. น้ำประปามีแร่ธาตุหลายชนิด เมื่อต้มเดือดแล้วเดือดอีกหลายๆ ครั้ง น้ำจำนวนมากจะระเหยกลายเป็นไอ ส่วนที่เหลือ จึงมีปริมาณแร่ธาตุ ชนิดต่างๆ เข้มข้นขึ้นมาก และเกินมาตรฐานการบริโภค 

73. น้ำที่ต้มเดือดนานๆ ไอออนของซิลเวอร์ไนเตรทที่อยู่ในน้ำ จะเปลี่ยนเป็นซิลเวอร์ไนไตรท์ ซึ่งเป็นสารที่ให้โทษแก่ร่างกาย และแร่ธาตุบางอย่างที่เป็นโทษต่อร่างกาย จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพราะการระเหยของน้ำ และอาจมากจนเกินขีดจำกัด ความสามารถของร่างกาย ในการกำจัดขับถ่ายออกมา จึงไม่ควรดื่มน้ำที่ต้มเดือดแล้วหลาย ๆ ครั้ง ครับ

74.ชาร์จแบตฯมือถือ 
  ชาร์จบ่อย ชาร์จถี่ ...แบตฯหมดอายุใช้งานเร็ว  โรงงานส่วนใหญ่ ออกแบบชาร์จได้ประมาณ 300-400 ครั้งชาร์จมากเกินกว่านั้น แบตฯจะเสื่อม      ฉะนั้นวิธีถนอมแบตฯง่ายๆ... อย่าชาร์จบ่อย โดยไม่จำเป็น ใช้จนหมดแล้วค่อยชาร์จ


75..เคล็ดลับ "การรักษาดวงตาเมื่อต้องอยู่หน้าคอม
  โดย หมั่นกระพริบตาให้บ่อยขึ้น   จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ปรับความสูงของจอให้เหมาะสม   ปรับตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้น  เลือกแว่นที่ใช้กับคอมพิวเตอร์  เบรกซะบ้าง   เปลี่ยนจอใหม่ เลือกใช้จอชนิดLCD (จอแบน) แม้ราคาจะแพงกว่าจอธรรมดา (CRT) แต่ช่วยถนอมตาได้มาก

76.ขิงช่วยให้ปลาทอดไม่ติดกระทะ
โดยการตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อนพอสมควร เอาขิงสดฝานเป็นชิ้นบาง ๆ ประมาณ 2-3 ชิ้น ใส่ลงในกระทะ เมื่อขิงเกรียมก็ตั้งออก แล้วนำปลาลงไปทอด ปลาก็จะไม่ติดกระทะ

77. ขจัดกลิ่นบูดที่ติดค้างภาชนะ
หากภาชนะล้างแล้วแต่ยังมีกลิ่นบูดตกค้างจากเศษอาหาร ให้ใช้สารส้มป่นละเอียดผสมกับเกลือป่นในปริมาณที่เท่า ๆ กัน ใส่ลงไปในอ่างล้าง แล้วเติมน้ำเดือดให้ท่วมภาชนะที่ต้องการขจัดกลิ่น ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หรือจนกว่าน้ำจะเย็นลง ก็ให้ทำการล้างภาชนะแล้วตามด้วยล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง จากนั้นให้นำไปตากแดดหรือเช็ดให้แห้ง กลิ่นบูดของเศษอาหารที่ติดค้างในภาชนะก็จะหายไป

78. เคล็ดลับการขจัดคราบ : เลือดสด
    ทันทีที่รู้ว่าเสื้อผ้าคุณกำลังเปื้อนคราบเลือด คุณควรจะรีบนำไปแช่น้ำกับผงซักฟอก แต่หากคราบเลือดนั้นไม่ใช่คราบเลือดสด ให้คุณนำเสื้อที่เปื้อนเลือดไปชุบน้ำเย็น หลังจากนั้นเอาเกลือโรยตรงบริเวณคราบเลือดทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาซักด้วยน้ำสบู่อีกที หรือใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์หยดบนรอยเปื้อน ซึ่งจะทำให้เกิดฟอง เมื่อหมดฟองใช้มือปัดให้แห้ง แล้วจึงนำไปซักตามปกติ

79. เคล็ดลับการขจัดคราบ : หมึก
         เคล็ดลับ ในการขจัดคราบหมึก วิธีก็ง่ายแสนง่าย แค่เพียง ฉีดสเปรย์ลงบนเสื้อที่เลอะรอยหมึกทันที เพราะจะช่วยทำให้ซักรอยหมึกออกได้ง่ายขึ้น หรือใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ด หากรอยหมึกยังไม่ออก ให้ราดด้วยน้ำมะนาวและผสมเกลือแช่ทิ้งค้างคืนไว้ แล้วค่อยซักตามปกติ รอยหมึกก็จะเลือนหายไป

80.  เคล็ดลับการขจัดคราบ : น้ำผลไม้ / ยางผลไม้
      สิ่งที่จะช่วยในการกำจัดคราบเห็นจะไม่พ้นผลไม้ด้วยกัน คือ " มะนาว " ให้ใช้มะนาวถูลงบริเวณที่เปื้อน แล้วขยี้ออกด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง ส่วนเสื้อผ้าที่เปื้อนยางผลไม้ ให้ใช้แอลกอฮอล์เช็ดตรงรอยเปื้อน ยางผลไม้จะหลุดออกแล้วจึงนำไปซักตามปกติ   

81.เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดจางๆ ขจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็กน้อย จนแป้งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก

82.เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดฝังแน่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง

83. เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบกาแฟ ขจัดคราบโดยใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ


84. เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบชอกโกแลต ขจัดคราบโดยรีบนำไปแช่น้ำอุ่นทันที ที่เปื้อน อาจใช้น้ำยาขจัดคราบฝังแน่น ช่วยด้วย จากนั้นนำไปซักแห้ง


85. เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำตาเทียน ขจัดคราบโดยใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษ ประกบบริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่นๆ รีดทับ จนน้ำตาเทียนซึมออกม าติดกับกระดาษ

86. เสื้อผ้าที่เลอะโคลน ขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออก ซักด้วยน้ำเย็นหลายๆ ครั้ง จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก

87. เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำชา  ขจัดคราบโดยรีบเทน้ำเดือด ลงบนรอยเปื้อนบนผ้า ที่ยังเป็นรอยใหม่อยู่จนสีจางลงแล้ว รีบนำไปซักทันที ให้ซักในน้ำอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออก ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก

88. เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำผลไม้ น้ำมันพืช ขจัดคราบโดยให้ขึงผ้าที่เปื้อนบนปากถัง เทน้ำเดือดลงตรงรอยเปื้อน แล้วจึงซัก


89. เสื้อผ้าที่เลอะน้ำมันขัดเงา ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบทินเนอร์ทาบริเวณที่เปื้อนในขณะที่ยังเปียกอยู่ ใช้น้ำยาซักผ้า ขยี้ตรงรอยเปื้อนทันที นำมาแช่ในน้ำอุ่น แล้วรีบซักทันที


90. เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำมันดิบ ขจัดคราบโดยขูดน้ำมันดิบ ที่ติดอยู่ออกด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูด้วยน้ำมันสน หรือน้ำมันก๊าด หรือน้ำมันเบนซิน ( ห้ามใช้น้ำเด็ดขาด) 
 
91. เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำส้มสายชู ขจัดคราบโดยผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ำ 2 ถ้วย (ครึ่งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที ล้างออกแล้วซักตามปกติ

92. เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำหมาก น้ำหมึก ขจัดคราบโดยก่อนซักให้นำเกลือป่นโรยตรงรอยเปื้อน แล้วบีบน้ำมะนาว ลงไปให้ชุ่ม ผึ่งแดดไว้ครึ่งวัน จึงค่อยนำไปซัก

93. เสื้อผ้าที่เลอะกาว ขจัดคราบได้โดย ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้อน นำมาแช่ในน้ำเย็น แล้วซักตามปกติ

94.เสื้อผ้าที่เลอะขี้ผึ้ง ขจัดคราบได้โดย วางกระดาษซับบนรอยเปื้อนแล้วกดด้วยเตารีดที่ร้อน เปลี่ยนกระดาษ จนกระทั่งไขทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด ถ้าเป็นผ้าที่บาง หรือผ้าไหม ให้ใช้กระดาษทิชชู และเตารีดที่เย็นกว่า

95. หากเสื้อผ้าคุณเปื้อน ช็อคโกแลต หรือกาแฟ คุณสามารถกำจัดคราบได้โดยใช้กลีเซอรีนทาทิ้งไว้บริเวณที่เปื้อน
หลังจากนั้นจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่นกึ่งร้อนอีกครั้ง เพื่อละลายไขมัน คราบเปื้อนที่เกิดจากช็อคโกแลต และกาแฟ ก็จะจางหายไป…

96. การขจัดคราบ ลิปสติก
   นำน้ำตาลทรายมาผสมน้ำ แล้วถูตรงบริเวณที่มีลิปสติกเปื้อน จากนั้นหาผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดออก
อีกวิธีคือใช้ยาสีฟันหรือวาสลินทาตรงรอยเปื้อน แล้วเอาไปซักตามปกติ รอยลิปสติกจะค่อยๆ จางหายไป

97.น้ำส้มสายชูขจัดคราบมัน
       ลองเติม น้ำส้มสายชูขาวกลั่นลงใน น้ำยาล้างจาน จะช่วยขจัดคราบมันได้ค่ะ นอกจากนี้ถ้านำไป ผสมกับน้ำอุ่น ก็ยังสามารถ นำไปล้าง พื้นกระเบื้องหรือกระจกได้โดยไม่ทำให้เป็นรอย อีกด้วย หรือถ้าจะนำไป เช็ดคราบมันที่เตา ก็ไม่มีปัญหา

98. ถ้าบังเอิญ เสื้อตัวโปรดของคุณดันถูกสีกระเด็นใส่เข้าให้แล้วล่ะก็ ไม่ต้องตกใจนะคะ คุณสามารถที่จะขจัดคราบนั้นได้โดย การใช้น้ำมันสนเช็ดบริเวณที่เปื้อนสี ทิ้งไว้สักพัก แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสบู่ หรือใช้แอมโมเนียผสมน้ำ จากนั้นเอาผ้าที่เปื้อนสีแช่ไว้ครึ่งชั่วโมง แล้วนำไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น