วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การประหารชีวิต 3 นักศึกษา


ณ ลานประหาร...

นักศึกษาชายชาวอเมริกัน 3 คน เดินทางไปเที่ยวที่แม็กซิโก

ในคืนวันหนึ่งทั้ง 3 คน ดื่มเหล้าในบาร์หนักไปหน่อย

พอตอนเช้า ก็พบว่าทั้ง 3 คน ติดอยู่ในคุกและโดนตัดสินประหารชีวิตไปเรียบร้อย

แต่ทั้ง 3 คนไม่มีใครจำได้ว่าไปทำอะไรมาบ้างเนื่องจากเมาจัด

เลยเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด

พอถึงวันประหารหลังจากที่นักศึกษาคนแรกถูกนำเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ไฟฟ้า

เขาก็พูดสั่งเสียออกมาว่า

"ผมเป็นนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยแถบแกรนด์แคนยอน

ผมเชื่อในพลังของพระเจ้าและเชื่อว่าพระเจ้าจะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์"

พอสิ้นเสียงเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์เก้าอี้ไฟฟ้า ปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่เลยเชื่อว่าพระเจ้าไม่ต้องการให้นักศึกษาคนนี้ตายจึงปล่อยตัวไป

เสร็จแล้วนักศึกษาคนที่ 2 ก็ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้า

แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสับสวิทช์ไฟ นักศึกษาคนที่ 2 ก็กล่าวมาว่า

"ผมเป็นนักศึกษากฏหมายอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอริโซน่า

ผมเชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์จะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์เสมอ"

พูดจบเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์ทันทีปรากฏว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์ไม่ต้องการให้ชายผู้นี้ตายก็เลยยอมปล่อยตัวไป

หลังจากนั้นพอนักศึกษาคนที่ 3

ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้าเขาก็กล่าวว่า

"ผมเป็นนักศึกษาวิศวะไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัย(ขอสงวนสิทธิ์ไม่เอ่ยนามสถาบัน)

และผมจะขอบอกพวกคุณว่าถ้าพวกคุณไม่ต่อสายไฟ 2 เส้นที่ขาดอยู่นั้นเข้าด้วยกัน เพราะงั้นไฟฟ้าถึงไม่ช๊อต 2 คนนั้น ผมรู้ผมเรียนมา

หลังจากนั้นนักศึกษาคนที่ 3 ก็ได้เดินทางไปเฝ้าพระเจ้าอย่างสงบ..

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนเราต้องโกหก เพื่อเอาตัวรอดซะบ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น